31 พ.ย.64 ร.ต.อ.ชัยโรจน์ ธีระวรรณวัชร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถตู้ชนรั้วเหล็กกั้นถนน หรือการ์ดเรล ทำให้พลิกคว่ำตกร่องกลางถนนมิตรภาพ (อุดรธานี –ขอนแก่น) ขาเข้าเมืองอุดรธานี บริเวณบ้านโนนจำปา ม.5 ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี ก่อนถึงทางโค้งบ้านปะโค มีผู้บาดเจ็บและถูกรถทับเสียชีวิตจำนวนหลายราย จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.กุมภวาปี รถกู้ชีพ รพ.กุมปวาปี รถกู้ชีพ อบต.ปะโค อาสากู้ภัยมูลนิธิประชาธรรม และอาสากู้ภัยทางหลวงอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถตู้โตโยต้า คอมมูเตอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน 1นข- 6916 กทม. พลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า หลังชนเหล็กการ์ดเรลเกาะกลางถนน สภาพรถพังยับเยิน พบผู้บาดเจ็บส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดติดอยู่ในรถ เจ้าหน้ารีบเข้าช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บ 8 คนออกมานำส่งโรงพยาบาลกุมภวาปี ทราบชื่อภายหลังว่า นายสิทธิโชค ลาชม อายุ 23 ปี น.ส.ชุลีพร สัมฤทธิ์ อายุ 19 ปี น.ส.นิรมล ไชยยานิต อายุ 20 ปี น.ส.ชัญญานุช ยันนี อายุ 23 ปี นางถนอม เลิงไทสง อายุ 51 ปี นายบุญเรือง เลิงไทสง อายุ 52 ปี ด.ช.คมสันต์ อินกลาง อายุ 10 ปี และ นายเอกรินทร์ ศรีบ่อเนตร อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อ.นาทม จ.นครพนม
และพบผู้เสียชีวิตอีก 4 รายที่กระเด็นออกมานอกรถและถูกรถตู้ทับคือ นายเกียรติศักดิ์ สัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี ,น.ส.หอมไกล แสนเสิก อายุ 47 ปี ,น.ส.นิภาพรรณ หันจรัส อายุ 25 ปี,และนายภักดี โมธรรม อายุ 47 ปี ทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกัน กู้ภัยฯได้ใช้เครื่องมือตัดถ่างนำศพผู้เสียชีวิตออกมา ไปไว้ที่ รพ.กุมภวาปี เพื่อรอให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนรถตู้มรณะ ตำรวจได้ยกลากไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก
ร.ต.อ.ชัยโรจน์ ธีระวรรณวัชร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถตู้คันดังกล่าวมีนายเกียรติศักดิ์ สัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี สามีเป็นคนขับมือ 1 มี น.ส. ชุลีพร สัมฤทธิ์ 19 ปี ภรรยาเป็นคนขับมือ 2 โดยขับรถจาก จ.นครพนม ไปรับญาติพี่น้อง ซึ่งทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อกลับมาเกี่ยวข้าวที่บ้าน จ.นครพนม ขากลับนายเกียรติศักดิ์ฯ รู้สึกเมื่อยและง่วง จึงจอดรถที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เปลี่ยนให้ น.ส.ชุลีพรฯ ภรรยาขับต่อจนมาถึงจุดเกิดเหตุและเกิดหลับใน ทำให้รถเสียหลักชนเหล็กกั้นถนนรถตกลงร่องกลางถนนพลิกหงาย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่ง น.ส.ชุลีพรฯ ก็ยอมรับสาภาพว่าก่อนเกิดเหตุมีอาการง่วงและหลับในจริง ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบราวเหล็กกั้นเกาะกลางถนนพังเสียหายราว 30 เมตร และเศษซากชิ้นส่วนรถ และรอยกองเลือดแห้งอยู่บนถนน และสังเกตว่าก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 1.5 ก.ม. ซึ่งเป็นทางลงเนินยาวและเป็นทางโค้งคดเคี้ยวแต่ไม่มาก ก่อนที่จะถึงทางโค้งบ้านปะโค ราว 200 เมตร ที่จุดนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุและมีคนเสียชีวิตบ่อยครั้ง
นายปริญญา สาระพันธุ์ อายุ 39 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ ขณะตนตื่นและกำลังจะไปทำธุระส่วนตัวเข้าห้องน้ำ ได้ยินสียงรถยนต์ชนเหล็กราวกั้นล่องกลางถนนเสียงดังสนั่น จึงรีบวิ่งออกไปดูพบผู้บาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังระงม ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้การช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.กุมภวาปี และช่วยเหลือผู้เสียชีวิตที่ถูกหลังคารถทับออกมาทั้ง 4 ศพ คาดว่าคนขับคงหลับใน เพราะเป็นช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. และอยากฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน รวมถึงคนขับก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้โดยสารหรือคนที่มาด้วยได้ฝากชีวิตไว้กับคนขับเพียงคนเดียว ถึงแม้ว่าจุดเกิดเหตุจะไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ โดยส่วนมากจะไปเกิดขึ้น บริเวณทางโค้งบ้านปะโค ที่อยู่ห่างไปราว 200 เมตร และจะมักจะมีผู้เสียชีวิตอยุ่บ่อยครั้ง”
ส่วนน.ส.ชุลีพร สัมฤทธิ์ หรือน้องแตงโม โชว์เฟอร์รถตู้มรณะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีขับรถตู้ไปรับญาติพี่น้องทำงานอยู่ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อกลับบ้านไปช่วงกันเกี่ยวข้าวที่ จ.นครพนม และได้เปลี่ยนกันขับรถสลับกัน เริ่มจากที่ อ.บางใหญ่ ที่พี่ชายที่เสียชีวิตเป็นคนขับคนแรก เนื่องจากพวกตนไม่ชินเส้นทางใน กทม. กระทั่งมาถึงแยกรังสิต พี่ชายจึงให้สามีตนเป็นคนขับมาจนถึง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น สามีเกิดอาการง่วงและอ่อนเพลีย และเปลี่ยนให้ตนเป็นคนขับ
กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุรู้สึกว่ามีอาการง่วง และเผลอหลับในหลังจากลงเนินแล้วเป็นทางโค้ง มารู้สึกตัวอีกทีก็รถชนเหล็กราวกั้นเกาะกลางถนนแล้ว ทำให้ตนและสามีบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนพี่ชายและญาติรวม 4 คน ถูกรถทับเสียชีวิต รู้สึกเสียใจกับเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้ ที่ผ่านมาตนก็ได้ขับรถตู้ไปทำธุระในตัวเมือง จ.นครพนม อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยขับรถทางไกลแบบนี้ และเป็นครั้งแรกก็เกิดอุบัติเหตุสูญเสียพี่ชาย พี่สะใภ้ และญาติ”
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ชุลีพร สัมฤทธิ์ คนขับ ว่า ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต , ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี