DSIบุกทลายโกดัง
สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
ยึดของเต็มรถ69คัน
เสียหายร่วม160ล้าน
ดีเอสไอ บุกทลายโกดังเก็บสินค้าปลอม ละเมิดลิขสิทธิ์ 3 จุด ในพื้นที่ ระยอง-ปทุมธานี ยึดของกลางเต็มรถบรรทุก 69 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 160 ล้าน รมว.ยุติธรรม สั่งใช้กม.ฟอกเงินขยายผล จ่อหมายจับตัวการใหญ่แล้ว
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ที่อาคารฝึกทักษะความเชี่ยวชาญ(อาคารเก็บของกลาง) สถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ ตำบลหนองจอก อำเภอมีนบุรี กรุงเทพฯนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์ สินทางปัญญา และตัวแทนบริษัทฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ โปร จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้าโดราเอมอนตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภาคเอกชนร่วมแถลงผลการตรวจค้นและจับกุมลักลอบจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องนอน ผ้าห่ม ชุดผ้าปูที่นอนละเมิดเครื่องหมาย การค้าจำนวนมากในเขตพื้นที่ จ.ระยองและปทุมธานี มูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้กว่า 160ล้านบาท
นายสมศักดิ์กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่28ต.ค.64กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าซุกซ่อนสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า3จุด จุดที่1 โกดังให้เช่าเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จุดที่ 2 ตลาดนัดสำหรับจำหน่ายสินค้าบริเวณหน้าห้างไอทีสตาร์อ.เมืองจ.ระยอง จุดที่3 ตลาดนัดสำหรับจำหน่ายสินค้าบริเวณตลาดสามแยก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ผลการตรวจค้นพบสินค้าประเภทที่นอน ผ้าห่มที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆอาทิโดราเอมอน,หลุยส์ วิตตอง,ดิออร์,ชินจัง,เบนเทน,กุชชี่,เชลซี,ลิเวอร์พูล,แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและเครื่องหมายการ ค้ายี่ห้อดังอื่นๆจึงได้ตรวจยึดใส่รถบรรทุกสิบล้อทั้งสิ้น69คัน มีมูลค่าสินค้าตามราคาท้องตลาดจำนวนกว่า 40ล้านบาทและคิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้เป็นเงินจำนวนกว่า 160 ล้านบาทจึงได้ยึดสินค้าทั้งหมดไว้เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี เป็นคดีพิเศษที่58/2564โดยกล่าวหาว่าจำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมาย การค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร
“สินค้าดังกล่าว มีทั้งลักลอบเข้ามาจากต่างประเทศและผลิตในประเทศไทยโดยโรงงานพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เคยรับผลิตตามออเดอร์ให้กับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนส่งมายังโกดังจ.ระยอง และกระจายสินค้าตามตลาดนัดต่างๆประเทศไทยดำเนินการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและเนื่องจากประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR)จัดอันดับสถานะทางการค้าอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง(W.)ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯมาตรา301พิเศษ ที่ทำให้ไทยต้องถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ ทำให้ไทยได้สูญเสียโอกาสทางการค้าจนถึงปัจจุบันซึ่งผู้ต้องหากระทำผิดทั้งหมดจะส่งต่อ ปปง.สอบสวนธุรกรรมการเงินเพิ่มเติมด้วย”นายสมศักดิ์ ย้ำ
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่าได้มอบหมายให้กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา เร่งรัดดำเนินการสืบสวน จับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศโดยเฉพาะในเขตพื้นที่สีแดงอย่างจริงจังและเด็ดขาดและได้เฝ้าสืบสวนติดตามกลุ่มบุคคล ซึ่งมีพฤติการณ์จำที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าในลักษณะเป็นผู้ค้ารายใหญ่ระดับต้นๆของประเทศ จะจำหน่ายสินค้าในรูปแบบการค้าส่งและค้าปลีก มีการเสนอจำหน่ายสินค้าในรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ตามพื้นที่ชุมชนต่างๆหรืออีเว้นท์ จะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มประชาชนรับทราบทางสื่อออนไลน์หลากหลายช่องทางจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนจัดแสดงสินค้าตามสถานที่จัดงานต่างๆโดยไม่ซ้ำกันตามแหล่งชุมชุนที่มีคนอาศัยหนาแน่น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสถานที่จำหน่ายได้โดยทั่วถึงโดยเสนอจำหน่ายสินค้าปลอมคุณภาพเกรด AAAและไม่ได้คุณภาพ เพื่อหลอกลวงขายให้ผู้สนใจ เป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและภาพลักษณ์ของประเทศ
ด้าน พ.ต.ท.พเยาว์กล่าวว่าส่วนผู้เกี่ยวข้องทั้งพนักงานผู้ผลิตและผู้จำหน่ายได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลจนทราบตัวเจ้าของผู้ประกอบการที่แท้จริงแล้วว่าเป็นใครอยู่ระหว่างขั้นตอนการออกหมายจับต่อไปซึ่งโรงงานผลิตสินค้าจริงจะไม่มีโรงงานผลิตในไทยและสินค้าของแท้ต้องมีซีเรียลนัมเบอร์ติดไว้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี