แห่เที่ยวภูกระดึง
รับลมหนาวเย็น
เตือนใต้ตอนล่าง
ฝนหนักเสี่ยงท่วม
ภาคเหนือ-อีสาน เข้าสู่ฤดูหนาว ภูกระดึง จ.เลย นักท่องเที่ยว แห่สัมผัสอากาศหนาวเย็น จองที่พักเต็ม เหลือให้วอล์กอินเพียง 300 คน ปภ.สรุปยังมีน้ำท่วม12จังหวัด ส่วนอุตุฯเตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศหนาว อุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคัก
นายสำเร็จ ภูแสนศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดที่จะถึงมีนักท่องเที่ยว จองที่พักบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ผ่าน .QueQ จองมาเต็ม หมดแล้ว 700 คน และจะรับเพิ่มขึ้นเขาได้เพียง 300 คน ให้ครบ 1000 คน บรรยากาศในเช้านี้อุณหภูมิ 14.4 องศาเซลเซียส และมีหมอกลงจัด
โดยมีนักท่องเที่ยวที่พักแรมบนยอดภูกระดึงสะสม 589 คน จากรายงานในช่วงเช้านักท่องเที่ยวเดินฝ่าหมอกหนาไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น แม้จะผิดหวังกับแสงแรกยามเช้า แต่ทดแทนด้วยบรรยากาศการแสนสุดฟินในม่านหมอกตลอดของการเดินทาง และอากาศเยือกเย็นบนภูกระดึง
ขณะที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ 15.0,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง(ภูเรือ)13.0 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย (อ.ภูเรือ) 13.0 , อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย(อ.นาแห้ว) 16.5
ส่วนที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพอากาศได้เริ่มหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง หมอกเริ่มปกคลุมพื้นที่ หลังจากเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีฝนตก โดยพื้นที่หมู่บ้านติดแนวป่า ชายเขา และรอบๆ ตัวเมืองพะเยา หมอกลงหนามาก และมีฝนตกส่งผลให้อุณหภูมิลดลง ส่วนบนยอดดอยภูลังกา อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส
สำหรับพื้นที่ จ.พะเยา ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้มีหมอกลงจัดส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเพียง 30 เมตร โดยหมอกได้เข้าปกคลุมอย่างหนาแน่น และปลุกคุมไปทั่วบริเวณ ขณะที่กว๊านพะเยามีหมอกบางอุณหภูมิในพื้นราบต่ำสุดอยู่ที่ 20-21 องศาเซลเซียส ส่วนบนยอดดอยภูลังกา อ.ปงจ.พะเยา อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน-5 พฤศจิกายน 2564 ว่าทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งปัจจุบันยังมีสถานการณ์ใน 12 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา สิงห์บุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 37 อำเภอ 315 ตำบล 1,847 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 81,083 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 23 ราย ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่ แต่ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าบริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ สำหรับประเทศไทยตอนบน มีบริเวณความกดอากาศสูงกับลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนน้อย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยภาคเหนือ มีฝนร้อยละ10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ จ.ชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่บ้านหนองบัวแดง ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ลงทุนจ้างแรงงานนำกะละมังลอยคอไปเกี่ยวข้าวในนาที่ถูกน้ำมูลเอ่อเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร เพราะหากไม่รีบเก็บเกี่ยวข้าว อาจจะถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด โดยขณะนี้มีนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่ อย่างไรก็ดี การเก็บเกี่ยวข้าวที่จมน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากต้องยืนแช่น้ำเกี่ยวใส่กะละมัง ก่อนจะลากฝ่าน้ำท่วมไปกองรวมกันบนที่สูง จากนั้นจึงจ้างรถมานวดหรือปั่นและบรรทุกข้าวที่นวดแล้วไปตากที่ลานหรือตามถนน โดยข้าวที่ชื้น เมื่อนำไปขาย ก็ยังไม่รู้ว่าโรงสีจะรับซื้อหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมเสี่ยง หากขายไม่ได้ก็เก็บไว้บริโภคเอง ซึ่งผลกระทบดังกล่าวก็อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี