ทะลักทะลุร้อย! สตม.แถลงพื้นที่‘ภาคเหนือ’ตะครุบแรงงานเถื่อนอื้อ พร้อมแก๊งลักลอบขน-ผู้ให้ที่พักพิง
9 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 , พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจกุล ผกก.ตม.จว.ตาก , พ.ต.อ.วีรวัฒน์ นิลวัตร ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.ท.ภูวดล ภูมี สว.ตม.จว.เพชรบูรณ์ , พ.ต.ท.จักกราวุฒิ สุภาภรณ์ประดับ สว.ตม.จว.กำแพงเพชร และ พ.ต.ท.คณิศร ติระการ สว.ตม.จว.พิจิตร แถลงผลการจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
คดีแรก เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เดินลัดเขาเข้าตรวจสอบบริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่บริเวณที่ดินใกล้กับแม่น้ำเมยในหมู่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพักอาศัยอยู่ เมื่อไปถึงพบนายเมน กับพวกรวม 20 คน จึงได้จับกุมตัวไว้ และเวลาต่อเนื่องกันมีนายสมเจตน์ ได้เข้ามาบริเวณที่เกิดเหตุและแสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน และรับว่ายินยอมให้คนต่างด้าวดังกล่าวพักอาศัยที่เพิงพักที่เกิดเหตุ และเก็บเงินค่าเพิงพักหลังละ 300-500 บาทต่อเดือน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมตัวนายสมเจตน์ และคนต่างด้าวดังกล่าว ส่งดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่จับกุมตัวนายแวนสอ พร้อมพวกรวม 17 คน ซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้ที่สวนลำไย หมู่ 11 ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก จ.ตาก หลังจากจับกุมได้ซักถามขยายผลจนทราบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวได้นั่งรถยนต์ลักษณะรถกระบะขนผัก แต่รถได้เสียหลักตกข้างทาง และคนขับรถได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวคนต่างด้าวส่งดำเนินคดี จากนั้นสืบสวนจนทราบว่าคนขับรถดังกล่าวคือนายอนนท์ จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ท้อ และศาลจังหวัดตากได้อนุมัติหมายจับให้จับกุมตัวนายอนนท์ และเจ้าหน้าที่ ตม.จว.เพชรบูรณ์ และหน่วยงานในพื้นที่ได้ร่วมกันนำหมายจับศาลไปทำการจับกุมตัวนายอนนท์ ได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และควบคุมตัวส่งดำเนินคดี
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.กำแพงเพชร บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ได้ออกตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน ขับผ่านมาในเขตอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า หมู่ 22 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร จึงได้แสดงตัวและขอตรวจค้นพบนายอริยเดช เป็นคนขับ และพบนายทะมูยัง พร้อมพวกซึ่งเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองรวม 12 คน ซุกซ่อนอยู่ในรถและกระบะท้าย จึงได้จับกุมตัวไว้ หลังจับกุมได้ทำการซักถามขยายผลจนทราบว่ามีคนต่างด้าวบางส่วนรอขึ้นรถอยู่ที่ป่าละเมาะริมถนนท้ายหมู่บ้าน หมู่ 9 ต.ถาวรพัฒนา อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร จึงติดตามจับกุมตัวคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองได้อีก 4 คน และต่อมาเจ้าหน้าที่ ตม.จว.กำแพงเพชร ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ทำการจับกุมตัวนายใหญ่ พร้อมพวกคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง รวม 22 คน ส่งดำเนินคดี
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.พิจิตร ร่วมกับ บก.สกส.บช.ปส. และ สภ.สามง่าม จ.พิจิตร ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณถนนสาย 115 เส้นทางกำแพงเพชร-พิจิตร หลัก กม.76 อ.สามง่าม จ.พิจิตร พบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จึงได้เรียกให้หยุด แต่คนขับได้ขับรถหลบหนีจึงติดตามจับกุมตัวได้ทราบชื่อคือนายพิษณุสิน และพบนายมูเล คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาภายในรถอีก 39 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.จว.พิจิตร ได้ตรวจสอบและซักถามแล้วพบว่าคนต่างด้าวทั้ง 39 คน เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง และยังพบว่า มีผู้ร่วมกระทำความผิดซึ่งทำหน้าที่ขับรถนำ ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.5 , ตม.จว.เชียงใหม่ , กก.3 บก.สส.ภ.5 และ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจากพื้นที่ จ.ตาก เลี่ยงเข้ามาใช้เส้นทางที่เกิดเหตุเพื่อจะเดินทางไปกรุงเทพฯ จึงได้ออกตรวจสอบเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ (รถคันที่ 1) และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ (รถคันที่ 2) ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง จึงได้เรียกให้หยุดและตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบนายสาธิต เป็นคนขับรถคันที่ 1 และนายพะลือแคว เป็นคนขับรถคันที่ 2 จึงได้ทำการตรวจค้นรถ
จากการตรวจค้นรถยนต์คันที่ 1 ที่เป็นรถนำ ไม่พบคนต่างด้าว ส่วนรถยนต์คันที่ 2 พบนายจ่อ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองพร้อมพวก รวม 16 คน นั่งโดยสารภายในรถและหลบซ่อนอยู่ในท้ายกระบะโดยมีตาข่าย(แสลม) พลาสติกสีดำคลุมไว้ และในขณะที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้นได้มีรถยนต์คันที่ 3 คือรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนตาก ขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถยนต์ของทางราชการ คนขับได้เร่งความเร็วของรถและขับฝ่าหลบหนีไป จากนั้นคนขับทราบภายหลังว่าเป็นชายได้หยุดรถแล้ววิ่งหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจค้นและตรวจสอบภายในรถพบนายตา เฉ่ย คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองกับพวก จำนวนรวม 16 คน นั่งโดยสารภายในรถและหลบซ่อนอยู่ในท้ายกระบะโดยมีผ้าปูพื้นพลาสติกสีฟ้าคลุมไว้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ขบวนการขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ ออกพื้นที่จังหวัดที่มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และรวมถึงการที่คนต่างชาติเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี