แจ้งจับอดีตพนง.อ้างรู้จักบิ๊กรถไฟ ตุ๋นเงินหลอกฝากเข้าทำงานได้ไม่ต้องสอบ

9 พฤศจิกายน 2564 ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ นางกิ่งนภา วรรณชัย อายุ 56 ปี อยู่ ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นางวาสนา ไพเชฐศักดิ์ อายุ 67 ปี , นางอัญชลี วงษ์จันทร์ อายุ 46 ปี และนายพรมมิน ศิริสุข อายุ 64 ปี เข้าพบ ร.ต.ท.(หญิง) กรองทอง แสงศิริ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์   แจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับนายเจ๋ง พนักงาน รฟท. สังกัดสังกัดแขวงโรงงานอุตรดิตถ์ กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ศูนย์ลากเลื่อนฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย  โดยกล่าวหาว่าหลอกให้โอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้นเข้าทำงานเป็นพนักงาน และลูกจ้างในพื้นที่อุตรดิตถ์ และ แพร่ ตั้งแต่ 70,000 -320,000 บาท โดยไม่ต้องสอบ

ผู้เสียหายรวม 4 ราย สูญเงินรวมจำนวนทั้งสิ้น 744,000 บาท เหตุเกิดที่กองลากเลื่อนเขตอุตรดิตถ์ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินผ่านสมุดบัญชีธนาคาร เข้าสมุดบัญชีธนาคารของนายเจ๋ง รวมถึงคลิปวิดีโอ และคลิปเสียงการสนทนาพูดคุยระหว่างนายเจ๋งกับผู้เสียหายทุกราย ที่กล่าวอ้างสามารถฝากเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ อาทิ เสมียนบัญชี , พนักงานเทคนิค 4 , เจ้าพนักงานระดับ 6 ภายในศูนย์ปฏิบัติการการเดินรถ ภาค  3 จ.อุตรดิตถ์ และตำแหน่งเสมียนประจำสถานีรถไฟบ้านปิน ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ ส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นางกิ่งนภา กล่าวว่า นายเจ๋ง หลอกลวงว่าสามารถฝากลูกสะใภ้ให้เข้าทำงานบรรจุเป็นเสมียนบัญชี   กองการรถไฟอุตรดิตถ์ ซึ่งมีตำแหน่งงานว่างอยู่ โดยไม่ต้องผ่านการสอบบรรจุตามขั้นตอนเหมือนบุคคลทั่วไป  จะเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 แต่จะต้องจ่ายเงิน 320,000 บาท เพื่อเป็นค่าวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งตามที่ต้องการ ได้เรียกร้องขอเงินสดเพื่อเป็นค่าวิ่งเต้น 300,000 บาท นัดไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นโอนเงินไปให้ครั้งแรก 300,000 บาท ครั้งที่สอง เรียกร้องขอเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท จึงโอนให้ผ่านทางตู้เอทีเอ็ม  ย้ำว่าวันที่ 1 กันยายน 2564 ได้เข้าทำงานอย่างแน่นอน จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564  ที่ผ่านมา  ลูกสะใภ้ก็ยังไม่ได้เข้าทำงาน จึงเดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ เกี่ยวกับการเปิดรับบรรจุพนักงานในตำแหน่งเสมียนบัญชี ตามที่นายเจ๋ง กล่าวอ้าง รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า ไม่มีการเปิดรับสมัครหรือสมัครสอบตำแหน่งเจ้าหน้าที่และพนักงานของการรถไฟอุตรดิตถ์

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ได้รับเอกสารเรื่องลงโทษไล่นายเจ๋ง ออกจากการเป็นพนักงาน เนื่องจากขาดงานตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ถึง 13 ตุลาคม 2564 เป็นการขาดงานเกิน 15 วัน   ลงนามโดยนายสมพร บุญนวล วิศวกรอำนวยการศูนย์ลากเลื่อน  ปฏิบัติการแทน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย  จึงทำให้แน่ใจและเชื่อได้ว่าถูกนายเจ๋ง หลอกลวงว่าสามารถฝากลูกสะใภ้   เข้าทำงานบรรจุเป็นเสมียนบัญชี กองการรถไฟอุตรดิตถ์ จึงรู้ว่าถูกหลอกให้โอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้น เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 320,000 บาท จึงมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเจ๋ง

ด้าน ร.ต.สุวิทย์ ไพเชฐศักดิ์ สามีของนางวาสนา ไพเชฐศักดิ์  กล่าวว่า ถูกนายเจ๋ง อ้างว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยในกรุงเทพฯ บอกว่าสามารถช่วยน้องสาวของภรรยา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งลูกจ้างเฉพาะ งานการรถไฟในกรุงเทพแห่งหนึ่งให้เข้าทำงานในตำแหน่งเสมียนประจำสถานีรถไฟบ้านปิน ต.บ้านปิน อ.ลอง  จ.แพร่  โดยไม่ต้องสอบได้ล้านเปอร์เซ็นต์ และจะเข้าทำงานในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยขอค่าดำเนินการวิ่งเต้นเป็นเงิน 70,000 บาท นางวาสนา ผู้เป็นภรรยาจึงโอนเงินไปให้ครั้งแรก จำนวน 50,000 บาท ครั้งที่สอง เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท ผ่านบัญชีธนาคารชื่อของนายเจ๋ง 

เมื่อถึงวันเวลาดังกล่าวก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาทราบว่า ถูกไล่ออกจากจากเป็นพนักงานรถไฟ   เนื่องจากขาดงานเกิน 15 วัน    ทำให้แน่ใจว่าถูกหลอกลวงเพื่อหวังเอาเงินหรือทรัพย์สิน สืบทราบว่ามีบุคคลที่ถูกหลอกลวงในทำนองเดียวกันอีกรวมเป็น 4 ราย จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับนายเจ๋ง อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ถูกหลอกลวงแบบเดียวกันอีกจำนวนมาก แต่ยังไม่กล้าเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากกลัวไม่ได้เงินคืน

สำหรับเจ้าทุกข์วันนี้มีทั้งหมด 4 ราย ถูกนายเจ๋ง  หลอกให้โอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้นเข้าทำงานเป็นพนักงานและลูกจ้างโดยไม่ต้องสอบ ประกอบด้วย  1.นางกิ่งนภา  วรรณชัย ถูกอ้างว่าสามารถฝากลูกสะใภ้ เข้าทำงานบรรจุเป็นเสมียนบัญชี กองการรถไฟอุตรดิตถ์ โอนเงินไปรวมทั้งสิ้น 320,000 บาท   , 2.นางวาสนา  ไพเชฐศักดิ์  อ้างว่าสามารถฝากน้องสาว ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างเฉพาะงานการรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ ให้ได้เข้าทำงานในตำแหน่งเสมียนประจำสถานีรถไฟบ้านปิน ต.บ้านปิน อ.ลอง  จ.แพร่ โอนเงินไปเป็นจำนวน 70,000 บาท 

3.นางอัญชลี วงษ์จันทร์  อ้างว่าสามารถฝากลูกสาว ให้ทำงานเป็นเจ้าพนักงานระดับ 6 ภายในศูนย์ปฏิบัติการการเดินรถ ภาค   3 จ.อุตรดิตถ์ โอนเงินเป็นเงินจำนวน 250,000 บาท และ  4.นายพรมมิน  ศิริสุข อ้างว่าสามารถฝากลูกชาย ทำงานเป็นลูกจ้างเฉพาะงานการรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สามารถช่วยเข้าทำงานเป็นพนักงานเทคนิค   4 กองการรถไฟอุตรดิตถ์  โอนเงินไปให้ จำนวน 104,000 บาท รวมเงินที่เจ้าทุกข์ทั้ง 4 รายโอนเงินไปให้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 744,000 บาท

-005