รองโฆษกฯอัยการ ชี้การสั่งฟ้อง"อดีตผกก.โจ้"กับลูกน้องขอให้รอแถลงเป็นทางการ15 พ.ย.นี้ ส่วนการสั่งฟ้องโทษประหารสถานเดียว กับผู้ต้องหามีเป็นประจำอยู่แล้ว หากเข้าข่ายความผิด และผลการพิจารณาจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาล
จากกรณีมีกระแสข่าวว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 6 คน ประกอบด้วยพ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ,ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค , ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ,ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว หรือดาบโบ้ ,ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ กรณีร่วมกันใช้ถุงดำคลุมศรีษะ นายจีระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย แต่สำนักงานอัยการสูงสุดออกมาปฏิเสธว่า ยังไม่ได้สั่งฟ้องตามที่เป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เรื่องข้อเท็จจริงที่สื่อได้เสนอไปนั้น ไม่ใช่การเปิดเผยของสำนักงานอัยการสูงสุดและไม่ทราบเเหล่งที่มาของข้อมูล รวมทั้งยังไม่ได้ข้อยุติ จึงขอให้รอการแถลงข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดในวันที่ 15 พ.ย. เวลา 13.00 น.ซึ่งทางทีมโฆษกสนักงานอัยการสูงสุด จะแถลงในข้อเท็จจริงทุกประเด็นที่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งอาจรวมถึงคดีเสี่ยโจ้ ปัตตานี หรือนายสหชัย เจียรเสริมสิน ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินค้าน้ำมันเถื่อนและคดีอื่นๆที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชน
เมื่อถามถึง การสั่งฟ้องข้อหาที่มีโทษประหารชีวิตสถานเดียวนั้นเคยมีมาก่อนหรือไม่ นายประยุทธ ให้ข้อมูลว่า เกี่ยวกับโทษประหารชีวิตตามป.อาญา มาตรา 289 หรือโทษประหารชีวิตตามกฎหมายอื่นๆนั้น อัยการได้ยื่นฟ้องเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น การผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ แม้จะไม่ใช่การฟ้องด้วยมาตรา 289 แต่ก็มีโทษประหารชีวิตตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด อย่างกรณี ข้อหาฆ่าผู้อื่น ตาม ป อาญา มาตรา 288 ที่มีโทษตั้งแต่จำคุกตลอดชีวิตถึงประหารชีวิต ทางอัยการก็มีการสั่งฟ้องคดีตลอดและบางคดีศาลก็คำพิพากษาให้ประหารชีวิตเลยก็มี เช่น คดีชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่จ.ลพบุรี ที่นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือผอ.กอล์ฟ อดีต ผอ.โรงเรียนชั้นประถมแห่งหนึ่ง ในจ.สิงห์บุรี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองและยิงผู้อยู่ในเหตุการณ์เสียชีวิต 3 ศพนั้น เข้าข่าย กระทำผิด ป.อาญา มาตรา 288 แม้จำเลยรับสารภาพ เเต่อัยการก็นำสืบว่า แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็เพราะจำนนต่อหลักฐาน ซึ่งศาลก็ตัดสินให้ประหารชีวิต เป็นต้น
สำหรับการฟ้อง ตามป.อาญา มาตรา 289 ที่มีโทษประหารชีวิตนั้น ต้องดูว่าข้อเท็จจริงการกระทำผิดเข้าข่ายอนุมาตราใด เพราะมีทั้งฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ,ฆ่าบุพการี ,ฆ่าเจ้าพนักงาน แต่ในคดีของผกก.โจ้ กับพวดนั้น การที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 289(5 ) เพราะเห็นว่าอยู่ในข่ายความผิด ฆ่าโดยทารุณโหดร้าย ซึ่งมีโทษประหารชีวิตส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ต้องรอการวินิจฉัยของศาล
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี