การเมือง/ยธ.
ดีเอสไอ โต้ปมดำเนินคดี บ.CPOC และบ.CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD สำแดงเท็จเพื่อเลี่ยงภาษีคอนเดนเซท ยันไม่นิ่งนอนใจจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนบ.สัญชาติมาเลย์ ได้ขอความร่วมมือระหว่างประเทศกับสำนักงานอัยการต่างประเทศ ในการติดตามตัวมาดำเนินคดี -ยัน2คดีพิเศษเริ่มขาดอายุความกรรมแรกธ.ค.2568
วันที่18 พฤศจิกายน 2564 คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ชี้แจงว่าตามที่ปรากฏข่าวเนื้อหาพาดพิงดีเอสไอในการดำเนินคดีอาญากับบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) และบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD ผู้ได้รับสัญญาจากองค์กรร่วมไทย–มาเล เซีย ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเล เซีย (JDA) จากกรณีสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากรศุลกากร(ภาษีคอนเดนเซท)ว่าอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องกว่า1ปีเเล้ว แต่ยังไม่นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี และตั้งข้อสังเกตว่าเพื่อรอให้คดีขาดอายุความทั้งหมดนั้น
คณะโฆษกดีเอสไอ ระบุว่าดีเอสไอได้รับคดีกรณีกล่าวหาบริษัท CPOCไว้เป็นคดีพิเศษที่ 51/2558 และคดีกล่าวหาบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD ไว้เป็นคดีพิเศษที 52/2558 ซึ่งทั้งสองคดีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดในลักษณะส่วนหนึ่งเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ โดยอัยการสูงสุดมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนและมอบหมายให้พนักงานอัยการเข้าร่วมสอบสวนในคดีนี้ด้วย
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2561 หลังจากที่ทำการสอบสวนเสร็จสิ้น จึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีทั้งสองให้อัยการสูงสุดพิจารณา หลังจากนั้นอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องและให้นำตัวผู้ต้องหามาฟ้องภายในกำหนดอายุความ ซึ่งเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคำสั่งฟ้องของอัยการสูงสุดแล้วมิได้เพิกเฉยหรือประวิงการดำเนินการแต่อย่างใด โดยมีการดำเนินการประชุมร่วมระหว่าง
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและคณะพนักงานอัยการร่วมสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาฟ้องดำเนินคดี
สำหรับกรณีนี้อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องบริษัท CPOC นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซียและไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และบริษัทคาร์โก้มาร์เก็ตติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ ในฐานะตัวแทนออกของ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวรวม 7 ราย ซึ่งบริษัทคาร์โก้มาร์เก็ตติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวที่มีสัญชาติไทยนั้น ดีเอสไอได้ส่งตัวให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ส่วนบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซีย และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวนั้น ดีเอสไอได้ติดตามตัว โดยขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญากับสำนักงานอัยการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด
สำหรับคดีกล่าวหาบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD. อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD. นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซียและไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และบริษัทบางกอกเฟรท ฟอร์เวิดเดอร์ จำกัด จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ ในฐานะตัวแทนออกของ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัว รวม 9 ราย ซึ่งบริษัทบางกอกเฟรท ฟอร์เวิดเดอร์ จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ และผู้ต้องหาอื่นๆในฐานะส่วนตัวที่มีสัญชาติไทยนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งตัวให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ส่วนบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD. นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซียและผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวซึ่งมีสัญชาติมาเลเซียนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างติดตามตัวโดยขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา กับสำนักงานอัยการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อนำตัวมาฟ้องโดยเร็วต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าอายุความดำเนินคดีของคดีพิเศษทั้งสองปัจจุบันยังไม่ขาดอายุความ ซึ่งจะเริ่มขาดอายุความกรรมแรกในเดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี