‘ผกก.โจ้’ดิ้นสู้คดีถุงดำ
ปฏิเสธเจตนาฆ่าโดยทรมาน
รับรีดความลับจนเหยื่อตาย
พ่อ‘มาวิน’เข้าเป็นโจทก์ร่วม
ไม่ขอเรียกร้องค่าชดเชยอีก
ศาลนัดตรวจหลักฐาน19ม.ค.
“ผกก.โจ้” ดิ้นสู้คดี ปฏิเสธข้อหาเจตนาฆ่าให้ตายโดยทรมาน กรณีใช้ถุงดำคลุมหัว“มาวิน” เหยื่อคดียาเสพติดจนตาย รับรีดความลับจริงให้คายข้อมูล อ้างทำเพื่อประโยชน์ของสังคม-ประเทศชาติ ลูกน้องอีก 6 คนปฏิเสธร่วมฆ่าฯบางคนอ้างทำตามคำสั่ง “ผกก.โจ้” บางคนอ้างเข้ามาในห้องหลังเกิดเหตุแล้ว พ่อเหยื่อเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีไม่เรียกร้องเงินค่าชดเชย ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกม. ศาลนัดตรวจหลักฐานเช้า 19ม.ค.65
เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 19พฤศจิกายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำที่อท.180/2564 พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามทุจริต 3 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ อายุ 39 ปี ,พ.ต.ต.รวิโรจน์ ดิษทอง อายุ 38 ปี,ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค อายุ 41 ปี,ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55ปี,ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว อายุ 51ปี,ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น อายุ 46 ปีและส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ร่วมกันเป็นจำเลยที่1-7
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา ม.157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตาม พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ม.172 ,ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ป.อาญา ม.289(5)และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ป.อาญา ม. 309
กรณีสืบเนื่องเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 4–6ส.ค.2564ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์จากนายจิระพงษ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิต ระหว่างถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูกฆ่าโดยถูกถุงดำคลุมศรีษะจนขาดอากาศหายใจ และถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความความควบคุมของเจ้าพนักงาน
วันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบคำให้การ ขณะที่ ร.ต.จักรกฤณ์ กลั่นดี บิดาของนายจิรพงษ์ ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม ในคดีศาลสอบถามอัยการโจทก์ และทนายจำเลยแล้ว ไม่ค้าน จึงอนุญาตให้ร.ต.จักรกฤณ์ เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีได้
ทั้งนี้ ศาลอ่านและอธิบายฟ้องและข้อหาให้จำเลยทั้งหมดฟังแล้วทราบแล้วสอบคำให้การ โดย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ เฉพาะข้อหาที่ 1, 2 และ 4 ยกเว้นข้อหาที่ 3 โดย ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายจริง เพื่อต้องการขยายผลทางคดียาเสพติดที่เป็นภัยร้ายของสังคม ไม่ต้องการให้นายจิรพงษ์ ถึงแก่ความตาย ที่ทำไปเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ
พ.ต.ต.รวิโรจน์ จำเลยที่2ให้การรับสารภาพทุกข้อหา ยกเว้นข้อหาที่ 3 เช่นเดียวกัน อ้างว่า ไม่ได้เจตนาจะทำให้ถึงแก่ความตาย แค่เพียงอยู่ร่วมในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
ส่วนร.ต.อ.ทรงยศ จำเลยที่3ให้การปฏิเสธข้อหาที่3 และ4อ้างว่าเข้ามาที่เกิดเหตุภายหลัง และไม่ได้ร่วมทำร้ายผู้ตาย
ร.ต.ท.ธรณินทร์ จำเลยที่ 4 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นข้อหาที่ 4 ที่ให้การรับสารภาพ โดยอ้างข้อปฏิเสธระบุว่า ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ร่วมทำร้ายจริง แต่ไม่เจตนาให้ถึงแก่ชีวิต
ส่วนด.ต.วิสุทธิ์,ด.ต.ศุภากร และส.ต.ต.ปวีณ์กร จำเลยที่5-7ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาซึ่งจำเลยที่5และ7อ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาจริง แต่ไม่ได้ร่วมทำร้าย ส่วนจำเลยที่ 6 ระบุว่า เข้าไปในที่เกิดเหตุ แล้วเดินออกมา โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นไปแล้ว
ต่อมา เวลา11.30น.ร.ต.จักรกฤณ์ กลั่นดี บิดาของผู้ตาย เปิดเผยว่าอัยการที่จ.นครสวรรค์ แนะนำให้ตนตั้งทนายความเพื่อขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีซึ่งศาลได้เมตตาเพราะพึ่งขอยื่นเรื่องในวันนี้ ทำให้สามารถเป็นโจทก์ร่วมได้ และจะได้ทราบทุกขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย เมื่อฟังคำให้การของพวกจำเลย ตนคิดว่า เขาก็ให้การสมเหตุสมผล ว่าเป็นการทำงาน เพื่อเป็นการขยายผลตดียาเสพติด แต่ก็สงสารลูก ทุกวันนี้ยังมองเห็นภาพลูกที่โดนกระทำ ตนรับไม่ได้จริงๆวันนี้จึงมารับทราบว่าเขาจะให้การอย่างไร และขอความยุติธรรมจากศาล และศาลได้นัดตรวจหลักฐานอีกครั้งในวันที่19ม.ค.2565 เวลา 09.30น.
เมื่อถามว่าได้ฟังคำให้การของจำเลยแล้วมีความกังวลหรือไม่ ร.ต.จักรกฤณ์ตอบว่าจริงๆแล้วตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เราไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้มากกว่านี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณาของศาลดีกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี