สกัดมือปืนป่วนเลือกตั้งอบต.
ปูพรมค้น32จุด
ตร.ลุยอีสาน-กลาง-ภาคใต้
จับ23คน/ยึดปืน22กระบอก
ป้องกันไว้ก่อนก่อเหตุร้าย
ตำรวจปฏิบัติการกวาดล้างมือปืน สกัดก่อเหตุช่วงเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศปูพรม 32 จุด ทั่ว “อีสาน-กลาง-ใต้”คุมตัวผู้ต้องหา 23 ราย ยึดอาวุธปืน 22 กระบอก กระสุนนับพันนัด
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เปิดเผยว่า ตำรวจ PCT ตร. ได้ร่วมกับ PCT ภ.1-9 ระดมปิดล้อมตรวจค้น 32 เป้าหมายพร้อมกันทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาลักลอบซื้อขายอาวุธปืนทางออนไลน์ 23 ราย ยึดอาวุธปืน 22 กระบอก เครื่องกระสุนปืนอีกกว่า 1,000 นัด ตัดตอนก่อนถึงวันเลือกตั้งท้องถิ่น 28 พ.ย.64 ที่จะถึงนี้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้ศูนย์ PCT ทั่วประเทศ เร่งสืบสวนติดตามจับกุม การลักลอบซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน รวมถึงการลักลอบเล่นการพนันทายผลการเลือกตั้งทางออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หน.ชุดปฏิบัติการ ที่ 1 PCT ตร., พร้อมกำลัง บูรณการกับ PCT ภาค และฝ่ายสืบสวน น.,ภ.1-9 เข้าตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศจำนวน 32 แห่ง เน้นตรวจค้นอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนเป็นหลัก ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 23 ราย ยึดอาวุธปืน 22 กระบอก (ปืน BB Gun ดัดแปลง 1 กระบอก) เครื่องกระสุนปืนรวม 968 นัด ระเบิดปิงปอง 1 ลูก และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) อีกจำนวน 9,902 เม็ด
จากการสอบสวนเบื้องต้นส่วนใหญ่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าอาวุธปืน และของกลางรายการอื่นๆ เป็นของตน ซึ่งซื้อเก็บไว้ป้องกันตัวและบางรายชอบสะสมโดยใช้การสั่งซื้อทางออนไลน์ แต่อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้มาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุ เนื่องจากในการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกครั้งมักมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการต่อสู้กันรุนแรง สำหรับการตรวจค้นทั้ง 32 จุด ส่วนใหญ่เป็นภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลาง ตามลำดับ โดยขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ใดที่น่าห่วงเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนหรือรายงานเหตุ
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับปืน BB Gun จัดเป็นสิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งห้ามจำหน่ายหรือค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้ห้ามมีไว้ครอบครอง แต่ถ้าหากมีการนำไปดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้องเพื่อให้ใช้ยิงกับกระสุนจริงได้ ก็อาจจะเป็นอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ดังนั้น เมื่อมีการตรวจพบปืน BB Gun จะมีการทำบันทึกการตรวจยึดเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนส่งไปตรวจพิสูจน์ หากผลการตรวจสอบเป็นสิ่งเทียมอาวุธก็จะได้สอบสวนขยายผลไปยังผู้จำหน่ายหรือผู้ค้าว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ หากไม่ได้รับอนุญาต ผู้ขายก็จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานค้าสิ่งเทียมอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่หากผลการตรวจเป็นอาวุธปืน ก็จะมีความผิดฐาน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 - 20,000 บาท และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกข้อหาหนึ่งด้วย
ผอ.PCT กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย โดยเฉพาะช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้งฯ อาจมีผู้ไม่หวังดีนำอาวุธปืนมาใช้ก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์เพื่อขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งป้องกันเหตุโดยการระดมสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว หากพบเบาะแส สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี