"คุณหญิงกัลยา"เดินหน้าปั้นเด็กวิทย์ฯ หลัง ครม.ใส่เกียร์หนุน พร้อมดึง รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณฯ เป็นศูนย์กลาง ขยายองค์ความรู้ ผลิตนักวิจัยและบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ รองรับกลุ่มผู้ลงทุนใน EEC
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) พร้อมนายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษาและประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) และคณะ ตรวจเยี่ยมการเปิดเรียนอย่างปลอดภัยด้วยการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ พร้อมมอบนโยบายให้ผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยเชียงราย
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เด็กมีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ดังจะเห็นได้จากที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระยะเวลา 10 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 - 2573) วงเงิน 9,619 ล้านบาท รวมไปถึงการสนับสนุนให้เพิ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยในเขตพื้นที่การศึกษา 6 แห่ง จากเดิมมีอยู่ 12 แห่ง รวมเป็น 18 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินงานของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ในช่วงที่ผ่านมานั้น พบว่าได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง มีเป้าหมายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านการเตรียมความพร้อมกำลังคนระดับสูงทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ (STEM) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ลงทุนจากประเทศต่าง ๆที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) และโครงการอื่นๆ ของประเทศ
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีศักยภาพสูงทางด้านคณิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จึงอยากให้ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปยังโรงเรียนต่าง ๆ โดยใช้โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เป็นฐานหรือศูนย์กลางในการพัฒนายกระดับคุณภาพการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสในการเรียนรู้และใช้ชีวิตอย่างมี STI (Science Technology & Innovation) ต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับการจัดการศึกษาของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยเชียงรายนั้น ได้ดำเนินการเปิดการเรียนการสอนแบบ on site ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 โดยมีการจัดการเรียนการสอนแบบ hybrid ทั้ง On site สำหรับนักเรียนที่แจ้งความประสงค์และได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองในการเข้ามาเรียนที่โรงเรียน และ On line สำหรับนักเรียนที่แจ้งความประสงค์ในการเรียนที่บ้าน ในส่วนของการได้รับวัคซีนของครูและบุคลากรนั้น ก็ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 99% และนักเรียนได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 100%
"ต้องขอชื่นชมทางโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเชียงรายเป็นอย่างมากที่ได้ดำเนินการเปิดโรงเรียนแบบ On site ตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สามารถจัดการเรียนการสอนอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันก็สามารถสอนเด็กให้มีความรู้ ความสามารถเทียบเท่าระดับนานาชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งอยากจะฝากเพิ่มว่าเรามีเด็กเก่งแล้ว มีครูที่เก่งแล้ว เราจะต้องสอดแทรกเรื่อง Coding เรื่อง STI รวมถึงเรื่องคุณธรรมเข้าไปด้วย เพื่อให้เขานำไปต่อยอดใช้ในการดำเนินชีวิต เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต" ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวด้วยว่า กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ในการพัฒนานักเรียน ครู ผู้บริหารด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษโดยการสนับสนุนทุนการศึกษาจากสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ในการไปศึกษาต่อหลักสูตรพัฒนาภาษาอังกฤษในหลักสูตรระยะสั้น สำหรับนักเรียน การสนับสนุนความร่วมมือกับหน่วยงานทางการศึกษาและมหาวิทยาลัยของประเทศนิวซีแลนด์ รวมถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโอตาโก ประเทศนิวซีแลนด์ นักเรียนและครูกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษโดยมหาวิทยาลัยโอตาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้นักเรียนมีศักยภาพด้านภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อและให้ครูมีศักยภาพด้านการสอนภาษาอังกฤษ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี