เร่งผุดบ้านมั่นคงล้านหลัง
‘จุรินทร์’ตั้งเป้าใน15ปี
รับปากยกระดับพ้นสลัม
ผลักดันท่องเที่ยวชุมชน
“จุรินทร์” ล่องเรือริมคลองเปรมประชากร ลุยมอบทะเบียนบ้านบ้านมั่นคง ตั้งเป้าล้านหลัง ใน 15 ปี ดันท่องเที่ยวชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับพ้นสลัม
27 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11.00 น.ที่คลองเปรมประชากร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ พร้อมด้วย นต.สุธรรม ระหงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอนันตชาติ บัวสุวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ ลงเรือติดตามความคืบหน้าการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง มอบทะเบียนบ้านให้ผู้แทนชุมชน และมอบถุงนำใจให้กำลังใจสมาชิกชุมชนประชาร่วมใจ 2
นางสมร จันทร์ฉุน ประธานสหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด กล่าวว่า ความเป็นอยู่ดีขึ้นอากาศไทยเทมากขึ้น มีที่ออกกำลังกายผู้สูงอายุตี 3 ตี 4 มาเดินออกกำลังกายกันความเป็นอยู่ดีมาก อยู่กันด้วยความสงบและเรียบร้อย จากสมัยก่อนเรียกพวกเราว่าสลัม ขอบคุณท่านที่เมตตา ท่านให้ความสำคัญ และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความเมตตาและให้กำลังใจ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการตั้งแต่ปี 43 เพราะตอนนั้นตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และนายกรัฐมนตรี คือ ท่านชวน หลีกภัย โดยโครงการบ้านมั่นคง เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ปี 43 เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนั้นและต่อยอดจนถึงวันนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ไร้บ้าน หรือมีบ้าน แต่ต้องได้รับการปรับปรุงให้มีความเป็นอยู่ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยภาครัฐจะเข้ามาช่วยส่งเสริมสนับสนุนทำบ้านใหม่ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปาและอื่นๆให้ และชาวบ้านลงทุนสร้างบ้านเอง แต่รัฐจะช่วยหาแหล่งเงินกู้ในรูปสหกรณ์หรือตามความเหมาะสม และโครงการบ้านพอเพียง พอช.จะเข้าช่วยสนับสนุนซ่อมแซม สำหรับโครงการบ้านมั่นคงวันนี้เราเดินหน้าได้เร็วขึ้น ปีที่แล้วทำได้แล้วถึง 200,000 หลังทั่วประเทศ และจากนี้ 15 ปี จนถึงปี 2579 จะทำให้ได้ 1,000,000 หลัง
วันนี้ตนในฐานะประธานคณะกรรมการที่อยู่อาศัยแห่งชาติ ได้มีโอกาสมายังชุมชนริมคลองประชาร่วมใจ 2 ติดตามความก้าวหน้าสิ่งที่เริ่มนับ 1 ที่ต้องการปรับปรุงพัฒนาชุมชนริมคลองให้พี่น้องทั้งหมดมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากสร้างบ้านให้เสร็จตามเป้าหมายแล้ว หัวใจสำคัญ คือ สภาพแวดล้อมหลังชุมชนใหม่เกิด เราอยากเห็นชุมชนริมคลองในกรุงเทพมหานคร น้ำใส และเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้จากการเดินทางมาของนักท่องเที่ยว ต่อไปชุมชนริมคลองจะเป็นทำเลทองสำหรับทุกคนที่อยู่อาศัย มีท่าเรือ ล่องเรือพานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ บ้านของท่านปรับปรุงพัฒนาเป็นบ้านที่มีหน้าบ้าน 2 ด้าน ทั้งริมคลองและริมถนน ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าชุมชนได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นบ้าน double front
“ขอให้ช่วยดูแลสภาพแวดล้อมให้งดงามทั้ง 2 ด้าน จะเป็นท่องเที่ยวชุมชนของกรุงเทพมหานคร โดยกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาช่วยดูเรื่องการค้าขาย แนวคิดในการปรับปรุงพัฒนาการค้า เพื่อให้พวกมีรายได้ เพื่อผ่อนบ้านให้บ้านเป็นของเรา มีอาชีพยังชีพได้อย่างมีความสุข และเรื่องความปลอดภัยต้องช่วยกันดู มีระบบบริหารจัดการสหกรณ์หรือผู้นำชุมชนต้องดำเนินการร่วมกันว่าต้องการให้ภาครัฐมาช่วยอย่างไรบ้าง ยาเสพติดต้องอย่าให้มีเด็ดขาดเพราะไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย และสุดท้ายความสามัคคี ถ้าไม่มีการท่องเที่ยวชุมชนก็จะเกิดยาก ผู้บริหารชุมชนต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ที่ไม่ทำร้ายเสียงส่วนน้อย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
โดยกิจกรรมในวันนี้นายจุรินทร์ และคณะได้ลงเรือติดตามตรวจเยี่ยมการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากรรวมระยะทางประมาณ 1,800 เมตร จากท่าเรือวัดเสมียนนารีผ่านชุมชนประชาร่วมใจ 1 และชุมชนประชาร่วมใจ 2 เดินเยี่ยมชมบ้านมั่นคงพบปะพี่น้องประชาชน ก่อนมอบทะเบียนบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากรรวม 176 ครัวเรือน และมอบถุงน้ำใจให้ประชาชน รวมถึงถามไถ่ถึงชีวิตความเป็นอยู่อย่างเป็นกันเอง จากนั้นยังมีจุดจำหน่ายของโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน มาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษช่วยลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี