‘กทม.’ขยายเวลาร้านอาหาร
นั่งดื่มได้ถึง5ทุ่ม
เริ่ม1ธ.ค./ห้ามการ์ดตก
รมว.แรงงานเคาะศุกร์นี้
เยียวยาธุรกิจกลางคืน
กทม.ออกประกาศให้ร้านอาหารบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 5 ทุ่ม เริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 ด้าน รมว.แรงงานยืนยันเยียวยานักดนตรี-ธุรกิจ
กลางคืนแน่ ขอดูตัวเลขพร้อมมีข้อสรุปในวันศุกร์นี้
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 47 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้จากที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 64 มีมติผ่อนคลายมาตรการ ดังนี้
1. ร้านอาหารสามารถให้บริการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64
2. สถานที่ตามประกาศก่อนหน้านี้ ยังคงปิดตามเดิม จนถึง 31 ธันวาคม 2564
3.สำหรับกิจกรรมการเล่นหรือแข่งขันที่ได้รับการผ่อนปรนตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย สามารถผ่อนปรนได้แต่ต้องขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้
วันเดียวกัน ที่กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือ รับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะจากตัวแทนสมาคม ชมรม เครือข่ายนักร้อง นักแสดง นักดนตรี และผู้ประกอบการสถานบันเทิง คลับ ผับ บาร์ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยากรณีได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
นายสุชาติ แถลงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตนในกลุ่มกิจการที่ได้รับผลกระทบ (กลุ่มการบริการด้านเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นหลักในร้าน) มีนายจ้าง จำนวน 697 แห่ง และผู้ประกันตนมาตรา 33 (ม.33) จำนวน 8,365 ราย ผู้ประกันตน ม.33 ใช้สิทธิ์ว่างงานสุดวิสัย ตั้งแต่เดือน ม.ค. – ต.ค. 2564 จำนวน 7,303 ราย ผู้ประกันตนมาตรา 40 กลุ่มนักดนตรี นักร้อง จำนวน 19,060 ราย นักแสดง นักเต้น จำนวน 4,111 ราย รวม 23,171 ราย ได้รับเงินเยียวยาในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. เดือนละ 5,000 บาท
นายสุชาติ กล่าวว่า ในเบื้องต้นขอยืนยันว่า การเยียวยามีแน่นอนสำหรับกลุ่มนี้ แต่จะต้องไปเตรียมตัวเลขของประชาชนที่ต้องการให้เยียวยา นำไปตกผลึก และพิจารณากันอีกที ซึ่งทางสมาคมนักดนตรีเองจะกลับไปเก็บตัวเลขจำนวนผู้ประกอบอาชีพกลุ่มธุรกิจกลางคืน และนำมาประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.นี้ และการช่วยเหลือในครั้งนี้ จะต้องรวดเร็ว และครอบคลุมทุกอาชีพในกลุ่มธุรกิจบันเทิงกลางคืน
นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 นายจ้าง ให้เวลาลงทะเบียนโครงการเอสเอ็มอี (โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน) ต่ออีก 1 เดือน เพื่อช่วยเหลือนายจ้างกลุ่มนี้ 3 เดือน โดยไม่มีเก็บภาษี กลุ่มที่ 2 ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม จะให้ประกันสังคมเยียวยากรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยร้อยละ 50 และจ่ายเยียวยาเพิ่มจากรัฐบาล ในโครงการ ม.33 เรารักกัน กลุ่มที่ 3 ลูกจ้างที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม จะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล โดยใช้เงินกู้จากรัฐบาล แต่ต้องให้สมาคม/สมาพันธ์รับรอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการเยียวยานี้จะรวมไปถึงประชาชนทุกกลุ่ม เช่น ผู้ที่อยู่ในมาตรา 40 อยู่แล้ว และผู้ที่ไม่ได้อยู่ในมาตรา 40 ด้วยใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ใช่ จะต้องเยียวยาทุกคน ขอแค่เพียงมีการรับรองจากสมาคม หรือสมาพันธ์ว่าบุคคลนี้ประกอบอาชีพเป็นนักดนตรี นักแสดงต่างๆ จริง
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พอใจภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศ กระแสของคนไทยที่เที่ยวในประเทศก็มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 962,968 คน ผู้ประกอบการ 8,920 คน ยอดการจองโรงแรมที่พักสะสม 1.5 ล้านห้อง ทำ มูลค่าสะสมรวมทั้งสิ้น 5,996 ล้านบาท และในส่วนของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐบาลจะสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ล่าสุดมีบริษัททัวร์สมัครลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 759 คน และบริษัทนำเที่ยวที่เปิดถุงเงินแล้วจำนวน 1,816 คน ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 18.4 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 26 พ.ย.2564 โดยประชาชนสามารถจองแพ็คเกจทัวร์ผ่านผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรง และใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการได้ถึง 31 มกราคม 2565
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความห่วงใยว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว อุณหภูมิเริ่มลดลง หลายพื้นที่อากาศเย็น มีลมหนาว ขอให้นักท่องเที่ยวดูแลสุภาพของตัวเองด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี