เปิดไทม์ไลน์‘โอไมครอน’รายแรกในไทย พบบินจากสเปน เข้า‘ดูไบ’ มากรุงเทพฯ
6 ธันวาคม 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงไทม์ไลน์ชาวต่างชาติติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" ที่ตรวจพบในประเทศไทย ว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ล่าสุดวันที่ 5 ธ.ค.64 ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 46 ประเทศ และคงเติมไทยเป็นประเทศที่ 47 ซึ่งแบ่งการติดเชื้อออกเป็น 1.ติดเชื้อในประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ รวมแล้วมี 15 ประเทศ 2.การติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้า มี 31 ประเทศรวมถึงประเทศไทย พบการติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้ามา และองค์การอนามัยโลกประกาศว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโอมิครอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับเคสยืนยันรายแรกว่าเป็นโอมิครอนนั้น เป็นชายอายุ 35 ปีสัญชาติอเมริกัน อาศัยอยู่ในสเปนมา 1 ปี เป็นนักธุรกิจ ไม่มีโรคประจำตัว และเป็นผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ เดินทางมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 พ.ย. โดยวันที่ 28 พ.ย. ได้ตรวจเชื้อด้วย PCR แต่ไม่พบเชื้อ จึงเดินทางมาไทย ซึ่งตรงนี้ตามเกณฑ์ของไทยว่า จะเข้ามาต้องตรวจเชื้อก่อน 72 ชั่วโมงไม่พบจึงเข้ามาได้ ซึ่งมาถึงเราได้ตรวจอีกครั้งและพบเชื้อวันที่ 1 ธ.ค. และส่งยืนยันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เช่นกัน โดยรายนี้อาการน้อยมาก แทบไม่มีอาการ
"คนนี้ไม่มีอาการ และไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ตอนแรกรับผลเลือด ผลเอกซเรย์ปกติ แต่ตรวจเจอเชื้อ อย่างไรก็ตาม เราได้ตรวจสอบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือไม่ พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เนื่องจากคนไข้คนนี้ค่อนข้างระมัดระวังตัว ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตอนนั่งเครื่องบินนั่งคนเดียว ไม่มีคนนั่งข้างๆ ตอนมาอยู่โรงแรมทำ Test and Go เขาสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งทางกรมควบคุมโรคได้มีการติดตามเฝ้าระวังผู้มีประวัติใกล้ชิดทั้งหมด โดยขณะนี้ทุกคนที่เราตรวจสอบอาการปกติ ไม่เจอเชื้อ แต่ก็จะติดตามต่อเนื่องตลอดระยะฟักตัวของเชื้อ" นพ.โอภาส กล่าว และว่า ส่วนกรณีหญิงแอฟริกาที่พบเชื้อโควิดรักษาในสถาบันบำราศนราดูรนั้น ไม่ใช่โอมิครอน แต่เป็นเดลตา ขณะนี้รักษาตัวอยู่ ไม่มีปัญหาอะไร
นพ.โอภาส กล่าวว่า ทั้งนี้ขออัปเดตเชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนว่า เป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว 2-5 เท่า ส่วนใหญ่อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือไม่มีอาการ หรืออาการน้อย แยกยากจากสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งเดลตา อัลฟา แกมมา ลักษณะการติดเชื้อแยกยาก แต่ที่มีรายงานจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ไม่ต้องเข้ารับการรักษาในรพ. และไม่มีรายงานการเสียชีวิต สิ่งสำคัญขณะนี้มาตรการที่องค์การอนามัยโลก และ CDC สหรัฐ แนะนำคือ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยประเทศไทยขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 95 ล้านกว่าโดส โดยเฉพาะคนฉีดเข็ม 1 ในคนไทยครอบคลุมเกิน 75% แล้ว และเข็มที่ 2 เกิน 60กว่า% และขณะนี้กำลังบูสเตอร์โดสเข็ม 3 โดยขอให้รอฟังประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่า ครบ 2 เข็มเดือนไหน และจะให้ฉีดบูสเตอร์โดสเมื่อไหร่ คาดว่าเดือนธ.ค.-ม.ค. จะมีการฉีดบูสเตอร์โดสมากที่สุด
ภายหลังกระทรวงสาธารณสุข มีการการแถลงข่าวประเด็น “สถานการณ์และความคืบหน้าการเฝ้าระวังสายพันธุ์โอมิครอน” เบื้องต้นมีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” ในประเทศไทยรายแรกนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สธ.แถลงยันพบ‘โอไมครอน’รายแรกในไทยแล้ว เป็นนทท.ต่างชาติ) ล่าสุดทาง “ศูนย์ข้อมูล COVID-19” รายงานว่า “โอไมครอน” พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้แล้วใน 46 ประเทศ และไทย เพิ่มเป็นประเทศที่ 47 ขณะที่ “ไทม์ไลน์” ของผู้ติดเชื้อรายแรกที่พบในประเทศ เป็นดังนี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี