โฆษกนครบาล เผยวันนี้มีชุมนุม 5 กลุ่ม น.1 สั่งจัดเตรียมกำลัง แนะนำเลี่ยง 14 เส้นทาง ส่วนม็อบจะนะทำกิจกรรมที่ทำเนียบฯวานนี้ ถูกจับกุม 37 ราย ยกเหตุผล 6 ข้อ ใช้ คฝ.หญิงเข้าปฏิบัติการ ยันไม่ใช่การสลายชุมนุม
วันนี้ (7 ธ.ค.) เวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในวันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมือง 5 กลุ่ม 1. กลุ่มคณะราษฎร ยกเลิก 112 เวลา 13.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 2. กลุ่มขุนพลคนของราษฎร เวลา 16.00 น. ที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ 3. กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร เวลา 17.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 4. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เวลา 17.30 น. ที่หน้าศาลฎีกาเวลา 5. กลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 17.30 น. ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง
บช.น.ย้ำว่า แม้กรุงเทพฯประกาศเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (สีฟ้า) การชุมนุม หรือรวมตัวทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคเข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผบช.น.ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเน้นย้ำปฏิบัติภายใต้กรอบของกฏหมาย เส้นทางที่อาจได้ผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนราชดำเนินกลาง, ถนนตะนาว, สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า, ถนนพระราม 1 (แยกเฉลิมเผ่า-แยกเจริญผล), ถนนพญาไท (แยกราชเทวี-แยกจุฬาฯ 12), ถนนงามวงศ์วาน, ลงโทลล์เวย์งามวงศ์วาน, สะพานข้ามแยกบางเขน, สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร, ถนนอโศก-ดินแดง, ถนนวิภาวดีรังสิต, ซอยพหลโยธิน 2, ทางลงด่วนดินแดง, อุโมงค์ดินแดง
สำหรับการชุมนุมของ 4 กลุ่ม เมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) 1. กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร 2. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความสงบไม่มีเหตุวุ่นวาย 3. กลุ่มทะลุแก๊ส ไม่พบมีการรวมรวมตัว 4. กลุ่มเครือข่ายจะนะรักถิ่น เวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิด 37 ราย (ชาย 6 ราย หญิง 31 ราย) เนื่องจาก 1. การทำกิจกรรมมีลักษณะกีดขวางการจราจรเข้า-ออกทำเนียบฯ และตั้งวางสิ่งของบนพื้นผิวการจราจร 2. การทำกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่โรค
3. ตลอดการชุมนุมตำรวจเข้าไปเจรจาจำนวนหลายครั้ง โดยจัดเตรียมพื้นที่อื่นเพื่อไม่ให้กีดขวาง และไม่ให้แออัดในเรื่องการแพร่โรค แต่ผู้ชุมนุมก็ยังฝ่าฝืนทำกิจกรรมต่อไป 4. ก่อนหน้านี้เคยเรียกร้อง ที่ทำเนียบฯ เมื่อปี 2563 มีการฝ่าฝืนเช่นเดียวกับครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้รัฐบาลได้รับข้อเสนอแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการ 5. จากข้อมูลด้านการข่าวมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจากกลุ่มอื่น อาจใช้ความรุนแรงหากปล่อยให้มีการชุมนุม จะก่อความไม่สงบขึ้นได้ตำรวจจึงทำการจับกุม
6. การเข้าดำเนินการของตำรวจไม่ใช่ลักษณะสลายการชุมนุม แต่เป็นการเข้าไปเจรจาและจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมาย โดยไม่ใช้ความรุนแรงเพราะใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) หญิง เข้าปฏิบัติและรื้อสิ่งของเพื่อให้พ้นการกีดขวาง นอกจากนี้ เมื่อควบคุมตัวผู้กระทำผิดมาที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) หลังสโมสรตำรวจ มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตามไปก่อเหตุยิงพลุ ประทัด บริเวณทางเข้าสโมสรตำรวจ ฉะนั้นทั้ง 6 ข้อ เป็นเครื่องยืนยันว่าตำรวจมีความจำเป็นต้องจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่ายชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค (ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ), พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก" สรุปการดำเนินคดีตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 รวมทั้งสิ้น 800 คดี สอบสวนสั่งฟ้องแล้ว 401 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 399 คดี ทั้งนี้ ฝากถึงผู้เข้าร่วมชุมนุมและกระทำผิดซ้ำๆ อาจเป็นข้อพิจารณาของศาลในการพิพากษาไม่อนุญาตประกันตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี