ผู้ต้องขัง ก่อจลาจลเรือนจำจังหวัดกระบี่ เรียกร้องผบ.เรือนจำขอย้ายคุก หลังพบมีผู้ต้องขังติดโควิดส่งกำลังตำรวจ-ทหาร เข้าเคลียร์พื้นที่ ด้านผู้ว่าฯกระบี่ยันคุมสถานการณ์ได้แล้ว นายกฯสั่งแก้ปัญหา-ถอดบทเรียน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดกระบี่ ประมาณ 400 คน ก่อจลาจลเรียกร้องผู้บัญชาการเรือนจำดังกล่าว ขอออกจากเรือนจำเนื่องจากมีผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 300 คน อยู่ภายในเรือนจำด้วย จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายบานปลาย ทางเรือนจำต้องประสานขอกำลังตำรวจภูธร จ.กระบี่ ทหารกองพันทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน อาสารักษาดินแดน จ.กระบี่ เข้าปิดล้อมและระงับเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ต้องขัง
อย่างไรก็ดีผู้ต้องขังได้ปล่อยนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ออกจากโรงนอนและทำลายโรงนอนดังกล่าว รวมถึงโรงครัวเพื่อนำเอามีดมาใช้เป็นอาวุธ และทำระเบิดเพลิง โดยนำอุปกรณ์ต่างๆมาจากโรงฝึกวิชาชีพ โดยตลอดช่วงเช้า ผู้ต้องหาที่ก่อจลาจลยังคงขว้างปาสิ่งของต่างๆ ข้ามกำแพง เข้าใส่เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามฝูงชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับส่งเสียงโห่ร้อง ตะโกนท้าทายให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าจับกุม โดยผู้ต้องขังที่ก่อเหตุมีทั้งมีด ไม้ เหล็ก ค้อน และระเบิดเพลิง พร้อมจะตอบโต้ นอกจากนี้ยังทำลายทรัพย์สินต่างๆ ด้วย
เวลา 10.00 น.วันเดียวกัน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วยพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จว.กระบี่ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 นายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำภาค 8 และผู้บัญชาการเรือนจำ 7 จังหวัด ร่วมประชุมหารือในการเข้าเคลียร์พื้นที่ภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ซึ่งมีข้อสรุปว่าให้ผู้ต้องขังส่งตัวแทนมาเจรจาเพื่อรับทราบข้อเรียกร้องจากแกนนำผู้ต้องขัง และมีการตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19
ต่อมา ทางเรือนจำได้มีการนำตัวผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาการรุนแรง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จ.กระบี่ 3 คน และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนาม ตึกโกเมน 10 คน ขณะเดียวกัน ทางผู้บัญชาการเรือนจำภาค 8ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ 100นาย จากเรือนจำ 6 จังหวัด 7 แห่ง มาสมทบ เพื่อขนย้ายผู้ต้องขังหญิง 263 คน ไปที่เรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย
นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้ต้องขังก่อจลาจล เนื่องจากไม่พอใจที่มีการคุมขังให้อยู่รวมกับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการเจรจาต่อรองกับทางผู้บัญชาการเรือนจำดังกล่าว แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะลุกลาม อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ได้ยุติลงแล้วโดยมีการตรวจคัดกรองจากแพทย์และพยาบาล และมีการคัดแยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อออกมารักษาที่โรงพยาบาลสนามภายนอก
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบสถานการณ์การก่อจลาจลภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ หลังจากแกนนำผู้ต้องขังชาย รวมตัวกันก่อเหตุแล้ว โดยขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีการขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทาง ผบก.ภ.จว.กระบี่ และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เข้าพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ มีการย้ายผู้ต้องขังหญิงไปเรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย ส่วนผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำ มีการตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 และคัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาตามขั้นตอน
ทั้งนี้ นายกฯได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำดังกล่าวและรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ดีที่สุด และอำนวยความสะดวกในการขนย้ายผู้ต้องขังที่จะต้องย้ายเรือนจำด้วยความปลอดภัย โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุและถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก พร้อมกับสั่งให้รายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี