น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังประชุมหารือแก้ไขปัญหานมโรงเรียน พร้อมด้วยนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ นายพจน์พิรัชต์ เนียมจุ้ย คณะที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสมพรศรีเมือง ผอ.องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) โดยมี นายสุรักษ์ นามตะประธานชุมนุมสหกรณ์นมไทย-เดนมาร์ค จำกัด นายสมาน เหล็งหวาน ประธานสหกรณ์นมไทย-เดนมาร์ค ปากช่อง จำกัด และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ว่าได้ดำเนินโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ดื่มมากขึ้น ส่วนกระแสข่าว ว่าโครงการนมโรงเรียน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการบางรายเข้ามากอบโกยผลประโยชน์นั้น ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับมีการทบทวนเงื่อนไขโครงการฯ เพื่อให้ผลประโยชน์ตกกับเกษตรกรผู้เลี้ยงนมตัวจริง โดยขอให้ดำเนินการตามขั้นตอน ตนพร้อมสนับสนุนการแก้ปัญหา
“เงื่อนไขการจัดสรรโควตานมโรงเรียนมีการกำหนดเงื่อนไขรับซื้อนมโรงเรียนจากผู้ประกอบการโรงนมขนาดเล็ก (5 ตัน) มีประเด็นร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบว่า โรงนมซื้อจากเกษตรกรจริงหรือไม่ หรือบางรายมาจากการสนับสนุนของผู้ประกอบการรายใหญ่ และไม่ได้มีการซื้อนมจริง ซึ่งทั้งหมดอยากให้ช่วยกันตรวจสอบเพราะรัฐบาลมุ่งหวังให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพไม่อยากให้มีใครมาเอาเปรียบเด็ก” น.ส.มนัญญา กล่าวและว่า เพื่อให้เกษตรกรตัวจริงได้รับประโยชน์จากงบประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในที่ประชุม รมช.เกษตรฯ ได้ให้ความเชื่อมั่นต่อสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม ว่ารัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือและไม่ทอดทิ้ง แต่ขอให้เสนอข้อมูลมาตามขั้นตอน และควรดำเนินการให้ทันก่อนที่จะถึงปีการศึกษา 1/2565 และเห็นว่าควรต้องมีการทบทวนบทบาทของ อ.ส.ค.ที่ต้องเข้ามามีบทบาทในโครงการนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะหาก อ.ส.ค.ไม่ช่วยรับซื้อนมก็จะมีปัญหาการเทนมทิ้งเหมือนในอดีต ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ภาคเอกชนบางรายไม่รับซื้อนมจากเกษตรกร แต่ อ.ส.ค.ก็ยังทำหน้าที่รับซื้อนมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสหกรณ์และเกษตรกร
ด้านนายสุรักษ์กล่าวว่า จะรวบรวมความเห็นของสมาชิกผู้เลี้ยงโคนม เสนอต่อกรมปศุสัตว์ เพื่อพิจารณาความเดือดร้อนครั้งนี้ซึ่งปัจจุบัน อ.ส.ค.ดูแลสมาชิกโคนม 4,500 ราย ปริมาณนม 600–700 ตันต่อวัน หากว่าบทบาทของ อ.ส.ค.ในเรื่องนมโรงเรียนน้อยลง จะส่งผลกระทบต่อการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรเช่นกันยอมรับว่ากรณีโรงนมย่อยขนาดเล็กที่ปัจจุบันมีการขยายตัวตั้งเพิ่มขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของรายใหญ่ ทำให้กระทบต่อสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมมาก การที่ รมช.เกษตรฯ ออกมาพูดเรื่องการรื้อระบบนมโรงเรียน จึงเป็นความหวังของสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมทั้งหมด ตนจะกลับไปทำความเห็นภายในต้นเดือนมกราคม 2565 เพื่อให้ทันช่วงเวลายื่นสิทธิ์นมโรงเรียน 1/2565 ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2565 เพราะไม่อยากให้เกิดภาพการนำนมโรงเรียนมาเททิ้งกลางถนนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี