“อุดรธานี” มีผู้ป่วยพุ่งติดเชื้อทะลุ 100 คนต่อวัน ห่วงวันบวงสรวงฉลองก่อตั้งเมือง ลดจำนวน “นางรำ” จาก 20,000 เหลือแค่ 400 คน “ผอ.รพ.อุดรธานี” แนะรีบทำแผนโฮม-คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน-ชุมชน รับมือโอมิครอน
6 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมสบายดี ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (ผวจ.อุดรธานี) เสนอขอมติและความคิดเห็นจากคณะกรรมการโรคติดต่ออุดรธานี ในการจัดงาน “วันที่ระลึกการตั้งเมืองอุดรธานี สู่ปีที่ 129 วิถีใหม่ (New Normal) 18 มกราคม 2565” ซึ่งตรงกับวันที่พลตรีพระเจ้าบรมวงษ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ถอยทัพจากริมแม่น้ำโขงตามสนธิสัญญา ร.ศ.112 มาตั้งทัพที่บ้านเดื่อหมากแข้ง จนเติบโตมาเป็น จ.อุดรธานี เมืองศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นายสยาม เปิดเผยว่า ปีก่อนมีการระบาดของโควิด-19 อุดรธานียังจัดงานพิธีตามประเพณี แต่งดกิจกรรมการรำบวงสรวง เพราะทุกปีจะมีผู้มาร่วมรำกว่า 2 หมื่นคน โดยจัดให้มีการรำบวงสรวง “ออนไลน์” มาจากจุดต่างๆถ่ายทอดสัญญามาที่บริเวณงาน ช่วงเดือนที่ผ่านมามีการพูดคุยในสถานการณ์ที่เรามีผู้ติดโควิด-19 ไม่เกินวันละ 20 คน ก็หวังว่าจะกลับมารำบวงสรวงปกติ แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 100 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นได้อีก
นายสยาม ระบุว่า ในการประชุมหารือในเรื่องนี้ เห็นว่ามาถึงวันนี้เราเข้าโควิด-19 มากขึ้น เราจะต้องอยู่กับโรคนี้อย่างไร จึงมาขอความเห็นจากคณะกรรมการฯ ว่างานที่จะจัดมี 2 วัน วันแรกช่วงเย็น 17 ม.ค.65 เป็นพิธีอัญเชิญศาตราวุธ จากพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ด้วยรถพร้อมกองเกียรติยศของ มทบ.24 , บน.23 และตชด.24 มาที่พระอนุสาวรีย์ฯ วันที่สองเช้า 18 ม.ค.65 มีการประกอบพิธีครบตามประเพณี วางพานพุ่ม พิธีสงฆ์ บายศรีสู่ขวัญเมือง , รำบายศรีฯ และรำบวงสรวง โดยจะลดผู้เข้าร่วมกิจกรรม เฉพาะตัวแทนจาก 53 หน่วย
สำหรับการรำบวงสรวงของประชาชน จะจัดให้รำเฉพาะรอบพระอนุสาวรีย์ฯ ได้ราว 400 คน โดย จ.อุดรธานีจัดไว้สำหรับตัวแทนหน่วยราชการ และตัวแทนองค์กรต่าง ๆ 100 คน ส่วนเทศบาลนครอุดรธานี จัดให้สำหรับตัวแทนประชาชน ที่ไม่ต้องเดินทางจากต่างพื้นที่ 300 คน ทั้งหมดจะต้องตรวจ ATK บริเวณงาน ทั้งนี้การรำลักษณะออนไลน์ เทศบาลนครอุดรธานีก็ยังจัดเหมือนปีก่อน เพื่อให้ 20 อำเภอ หน่วยงาน องค์กรเอกชน ประชาชนทั่วไป ถ่ายทอดสัญญาณภาพของตนเอง มาที่บริเวณพระอนุสาวรีย์
ด้านแพทย์หญิงฤทัย วรรธนวินิจ ผู้อำนวยการโรงยาบาลอุดรธานี เปิดเผยในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ว่า สถานการณ์ปัจจุบันทุกคนให้ความสนใจไปที่ชุดตรวจเอทีเค (ATK) ด้วยเอทีเคจะทำให้การบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง เอทีเคมีหลายมาตรฐานหลายบริษัท จากข้อมูลโรงพยาบาลอุดรธานีพบว่าผู้ป่วยที่ใช้ชุดตรวจเอทีเคแล้วมีผลเป็นบวก แล้วมาตรวจซ้ำแบบ RT-PCR ที่โรงพยาบาลอุดรธานี 80 เปอร์เซ็นต์ มีผลบวก หมายความว่าชุดเอทีเคทีที่ตรวจเองที่บ้าน 80 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อจริง ส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ ให้กลับไปสังเกตอาการที่บ้าน ล่าสุดที่โรงพยาบาลอุดรธานีมีผู้ติดเชื้อ 140 คน ติดเชื้อไม่รุนแรง เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม
“ยอมรับว่าตอนนี้ผู้ป่วยเพิ่มเร็วมาก เนื่องจากเป็นสายพันธุ์โอมิครอน แต่ภาพรวมระดับประเทศยังคงเป็นเดลตาที่ระบาดกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ แต่คิดว่าไม่นานโอมิครอนคงจะแซงเพราะการติดเชื้อเร็วมากเร็วกว่าเดลตา 2.5-3 เท่า” แพทย์หญิงฤทัย กล่าว
แพทย์หญิงฤทัย กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลอุดรธานีได้เตรียมรับสถานการณ์ไว้แล้ว มั่นใจได้ว่าจะมีการจัดการกับผู้ติดเชื้อได้รวดเร็ว เพราะมีการตรวจหาเชื้อได้เร็ว แม้โรงพยาบาลอุดรธานีจะมีเตียงรองรับผู้ป่วยได้กว่า 200 เตียง โรงพยาบาลก็รับไม่ไหว เราต้องรีบวางแผนทำแผนโฮม-คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น ดูแลผู้ป่วยโควิดที่บ้าน-ชุมชน ให้เร็วที่สุด แต่การทำต้องระวังควรให้คนที่อยู่ร่วมกันฉีดวัคซีน 2 เข็ม และต้องไม่มีผู้ป่วยอายุมาก 60 ปี ซึ่งโรงพยาบาลอุดรธานีได้มีการพูดคุยแนวทางไว้ ส่วนนโยบายจะออกมาแนวทางไหนขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรคติดเชื้อ ที่สำคัญตอนนี้กลุ่มเด็กเราต้องจับตาเป็นพิเศษเพราะเด็กยังไม่ได้รับวัคซีน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ล่าสุดวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 150 คน ยอดสะสม 21,635 คน อยู่ระหว่างการรักษา 670 คน กลับบ้านแล้ว 20,797 คน และเสียชีวิต 168 คน ส่วนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) สายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 86 คน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี