เกิดเหตุการณ์ระทึก! กำนันตำบลช่อผกา อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ และพลเมืองดีกลับจากทำบุญที่วัดเขาพระอังคาร เจอคนกำลังจะผูกคอตายรีบลงไปช่วยไว้ทัน ขณะที่ชายที่จะผูกคอตายบอกที่คิดสั้นเพราะไม่มีญาติเหลือ ต้องขอข้าววัดกินไม่อยากอยู่ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า อาการทางสมองไม่ปกติ
วันที่ 11 ม.ค.65 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ "วิทยา เบ็ญจกัลยา" โพสต์ภาพการช่วยชีวิตชายคนหนึ่งที่กำลังจะผูกคอตาย พร้อมข้อความระบุว่า "เหตุการณ์ระทึก ขณะขับรถลงจากเขาอังคาร มีพลเมืองดีขับรถฟอจูนเนอร์ ทะเบียน (2กน9082 กทม) สองคนโบกรถ พี่ๆ ช่วยด้วยมีคนจะผูกคอตายผมรีบจอดรถวิ่งไปดึงขาลงจากต้นไม้ สังเกตุเห็นผ้าขาวม้าผูกคอเตรียมจะผูกกับต้นไม้ ผมไปดึงขาลงจากต้นไม้ดึงตัวมานั่งที่ถนนสักพักรถหมอนภดล และรถผู้การรี ตามมาช่วยกับปลอบ แล้วผู้การรีโทรเรียกกู้ภัยมานำตัวส่งโรงพยาบาลต่อไป" ก็มีคนเข้ามาชื่นชมทุกคนที่มีส่วนช่วยชีวิตชายคนดังกล่าวรอดจากการผูกคอเสียชีวิตได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังพลเมืองดีที่ปรากฏในคลิปที่ช่วยเหลือชายที่จะคิดสั้นได้อย่างปลอดภัย ซึ่งนายวิทยา เบญจกัลยา และนางบัวริน พินาศภัย กำนันตำบลช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ สองพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และเข้าไปช่วย ก็ได้พาไปดูจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นริมถนนทางลงจากเขาพระอังคาร ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ
โดยกำนันตำบลช่อผกา เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ตอนขับรถกลับจากทำบุญที่วัดเขาพระอังคารเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางลงเขาก็หันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินร้องไห้ถือผ้าขาวม้าผูกไว้ที่คอคล้ายกับคนจะคิดสั้นเหมือนกำลังจะหาต้นไม้เพื่อจะผูกคอตาย ตนก็เลยชะลอรถ จึงตัดสินจอดรถเพื่อสังเกตดูว่าชายคนดังกล่าวจะคิดสั้นจริงหรือไม่ ตอนแรกก็ยังไม่กล้าลงจากรถ
พอเห็นชายคนดังกล่าวปีนขึ้นไปบนต้นไม้จึงแน่ใจว่าจะคิดสั้นแน่นอน จึงรีบลงจากรถวิ่งจะไปช่วยพอดีเห็นรถอีกคันวิ่งผ่านมาพอดี ก็เลยวิ่งมาโบกรถอีกคันบอกว่าช่วยด้วยๆ มีคนกำลังจะผูกคอตาย เพราะตัวเองคนเดียวก็กลัวจะเอาไม่อยู่ก็เลยหาคนมาช่วย ซึ่งตอนที่เข้าไปช่วยก็พูดกับชายคนดังกล่าวว่า "ลุงๆ ลงมาก่อนลุงเป็นอะไร ลุงก็ตอบว่าไม่อยากอยู่ ตนก็ถามต่อว่าทำไม่อยากอยู่หละ เขาก็ตอบว่าไม่มีพ่อแม่ ไม่มีญาติพี่น้อง" ซึ่งตนก็พยายามพูดให้ชายดังกล่าวใจเย็นจึงบอกให้ลงจากต้นไม้มาคุยกันก่อน จึงได้ยอมลงมา ซึ่งหากตนเองกับพลเมืองดีอีกคนไม่เข้าไปช่วย ชายคนดังกล่าวก็คงจะผูกคอตายสำเร็จพูดแล้วก็ยังขนลุก แต่ก็ดีใจที่ได้ช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งเอาไว้
ด้านนายวิทยา เบญจกัลยา พลเมืองดีอีกคน บอกว่า วันเกิดเหตุตนกับนายแพทย์นพดล พิษณุวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปราสาท จ.สุรินทร์ และผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานางรอง ได้ขึ้นไปทำบุญบนวัดเขาพระอังคาร หลังจากทำบุญเสร็จช่วงที่กำลังขับรถลงมาวัดก็มีผู้หญิงทราบชื่อภายหลังคือนางบัวริน พินาศภัย กำนันตำบลช่อผกา ได้วิ่งมาโบกรถแล้วตะโกนเรียกขอให้ช่วย พอตนลงมาจากรถกำนันก็บอกว่า ช่วยด้วยๆ คนจะผูกคอตาย จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือพอไปถึงต้นไม้ก็เห็นผ้าขาวม้ายังผูกติดอยู่ที่คอก็เชื่อว่าน่าจะคิดสั้นแน่นอนจึงรีบดึงขาลงมา ก็ยอมรับว่าตกใจเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ก็ดีใจที่ได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ให้พ้นจากความตายได้ ก็อยากฝากถึงคนที่จะคิดสั้นว่าอย่าทำแบบนี้เลยเพราะชีวิตมีค่า และทุกปัญหามีทางออกมีทางแก้ไข ก็ยังมีญาติพี่น้องที่พร้อมจะช่วยเหลือและให้กำลังใจ
หลังจากทำข่าวเสร็จระหว่างขับรถกลับบังเอิญได้พบกับนายบุญเกิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชายที่ปรากฏในคลิปที่พยายามจะผูกคอตายและพลเมืองดีเข้าไปช่วยเหลือเอาไว้ทัน จึงได้จอดรถไปสอบถามนายบุญเกิด ถึงสาเหตุที่จะคิดสั้น นายบุญเกิด เปิดเผยว่า น้อยใจตัวเองเนื่องจากพ่อแม่ญาติพี่น้องตายหมดแล้ว ไม่อยากอยู่คนเดียว แต่พอถามไปถามมาก็เหมือนจะพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง โดยนายบุญเกิดบอกว่าที่มาเดินบนถนน เนื่องจากจะไปหาข้าวกินเพราะที่วัดไม่มีข้าว พระท่านเอาข้าวให้หมาหมดแล้ว ตนจึงเดินขอข้าวที่วัดต่างหมู่บ้าน แต่เมื่อสอบถามทางวัดก็ให้ข้อมูลว่านายบุญเกิด มาอาศัยอยู่ที่วัดสักพักแล้ว แต่อาการทางสมองไม่ปกติบางครั้งก็พูดรู้เรื่องบางครั้งก็ไม่รู้เรื่อง และจะชอบเดินไปเรื่อย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี