พม่าทะลักชายแดน จับอีก 43 ราย จ่ายค่าหัว 25,000 บาท หวังไปทำงานใน 3 พื้นที่
16 มกราคม 2565 พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กองกำลังสุรสีห์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ต่อมากลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.บรรยง ได้รับรายงานจาก พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าท้องที่บ้านห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาญจนบุรี ออกลาดตระเวนพร้อมซุ่มตรวจ
จนกระทั่งพบกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่กลางไร่มันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบมีแรงงานทั้งหมด จำนวน 43 ราย เป็นชาย 22 คน และหญิง 20 คน เด็ก 1 คน หลังจากจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่จึงให้ทุกคนคุมตัวออกมาจากไร่มันสำปะหลัง เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
จากการสอบถามทราบว่า แรงงานเป็นชาวเมืองพะโค เมืองย่างกุ้ง และทวาย ประเทศเมียนมา การลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยในครั้งนี้เพื่อมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร, จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ โดยยอมจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าผู้นำพาเป็นเงินคนละ 20,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง หลังจากยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ก่อนที่จะทำการผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
-005