ระทึก!‘สปีดโบ๊ท’ท้องเรือแตก-จมกลางทะเลตราด ผู้โดยสารลอยคอ2ชม.
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 17 มกราคม 2565 นายมานพ เหลืออ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่า เขต 6 สาขาตราด รับแจ้งขอความช่วยเหลือกรณีมีเรือสปีดโบ๊ทท้องเรือแตก และจมลงในเวลา 16.15 น. โดยผู้โดยสารทุกคนสวมเสื้อชูชีพ และลอยคออยู่กลางทะเล ทราบพิกัดอยู่หน้าเกาะลิ่ม ห่างจากฝั่ง ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ประมาณ 2 กม.
นายมานพ ได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากชุดศูนย์รักษาทางทะเลตราด กองทัพเรือ ทหารเรือเกาะช้าง (ศรภ.เกาะช้าง) และสถานีตำรวจน้ำ 5 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ (แหลมงอบ ) และเรือประมงใกล้เคียงเพื่อนำเรือไปช่วยเหลือ หลังจากได้รับทราบพิกัดที่ชัดเจนแล้ว
นายมานพ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งและทราบพิกัดแล้ว ได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆทั้ง ศรชล.เกาะช้าง และตำรวจน้ำที่นำสปีดโบ๊ทเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมประสานงานเรือประมงที่ทำประมงอยู่บริเวณนั้นให้ตรวจสอบ หากพบให้ช่วยเหลือ ทราบว่ามีผู้เดินทางไป 8 คน รวมนายท้ายเรือ โดยครั้งแรกรับทราบว่าไปตกปลา ต่อมาทราบว่าไปทำธุระส่วนตัวและส่งอาหารให้กับญาติที่มีบ้านหน้าเกาะลิ่ม แต่เมื่อถึงบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรงและท้องเรือถูกกระแทกแรงหลายครั้ง จึงทำให้ท้องเรือแตก และผู้โดยสารทุกคนที่สวมใส่ชูชีพ แต่มีหญิงอายุ 75 ปีที่มีอายุมากคนหนึ่งกำลังหมดแรง และมีการแจ้งขอความช่วยเหลือด่วน โดยที่เหลือเป็นชายทั้งหมด
จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ปรากฏว่า เรือสปีดโบ๊ทของตำรวจน้ำและ ศรชล.เกาะช้าง ไม่พบเรือสปีดโบ๊ทลำดังกล่าว และได้ขับเลยไปยังบริเวณหินกองลูกช้าง แต่ก็ยังไม่พบ กระทั่งเวลา 17.20 น. มีรายงานว่าพบลูกเรือสปีดโบ๊ท 1 คนลอยคอมาอยู่หน้าหาดทรายดำ ต.แหลมงอบ จ.ตราด จึงเข้าไปช่วยเหลือ
นายนาวิน วิรัญโท ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายท้ายเรือชื่อนายจีระศักดิ์ ทิพย์ดอและ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งของความช่วยเหลือจากนายจิระศักดิ์ ว่าท้องเรือแตกและเรือกำลังจมลง โดยผู้โดยสารทุกคนสวมใส่เสื้อชูชีพ แต่มีผู้โดยสารคนหนึ่งที่เป็นหญิงสูงอายุกำลังอ่อนแรง และเสี่ยงที่จะไม่รู้สึกตัว จึงขอความช่วยเหลือโดยด่วน ซึ่งการเดินทางที่เกาะลิ่มครั้งนี้ของคณะทุกคนเดินทางมาเพื่อนำอาหารไปให้ญาติที่มีบ้านเรือนอยู่หน้าเกาะลิ่ม หรือบ้านสลักคอก ที่เป็นชุมชนชาวประมง และมาเยี่ยมด้วย แต่ได้เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน
ต่อมาเวลา 17.30 น. นายมานพ ได้รับแจ้งจากเรือเจ้าท่าที่ออกไปช่วยเหลือ พร้อมเรือศรภ.เกาะช้าง และเรือตำรวจน้ำแหลมงอบ ว่าพบผู้ประสบภัยลอยคออยู่ที่กลางทะเลหน้าหาดทรายดำ แต่สุดท้ายแล้วมาขึ้นฝั่งที่บ้านแหลมทองหลาง ต.แหลมงอบ ที่ห่างกันประมาณ 2 กม. ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญเข้าไปช่วยเหลือเป็นผู้ชายอายุประมาณ 60 ปี ที่มีอาการอ่อนเพลีย และนำส่งไปที่ รพ.แหลมงอบ
ขณะที่ท่าเรือประมงแหลมงอบ เรือสปีดโบ๊ทของเจ้าท่าตราดนำผู้ประสบภัยทั้ง 6 คน เข้ามาเทียบท่า โดยมี พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผบก.ภ.จว.ตราด , พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี ผกก.สภ.แหลมงอบ และหน่วยงาน ศรภ.เกาะช้าง และกรมประมง รวมทั้งเรือจากอุทยานแห่งชาติแห่งชาติหมู่เกาะช้าง รวมทั้งเรือศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดตราดร่วมช่วยเหลือ โดยเมื่อถึงท่าเรือประมงแหลมงอบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือได้เข้าช่วยเหลือนางลัดา วงศ์เดอลี ก่อน หลังพบว่ามีอาการอ่อนเพลียและนอนราบมากับเรือสปีดโบ๊ท ซึ่งต้องนำเปลหามขึ้นไปและส่งรพ.แหลมงอบโดยด่วน ส่วนคนอื่นๆมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
นายปริญญา วงศ์เดอลี ผู้ประสบภัยคนหนึ่งเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เรือมันแตกระหว่างเดินทางเข้าฝั่ง หลังเดินทางไปเกาะช้าง ที่บ้านสลักคอก และระหว่างเดินทางท้องเรือได้กระแทกกับท้องทะเล ทำให้พื้นเรือสปีดโบ๊ทแตก และเรือจมลง ทำให้ต้องลอยคออยู่ในทะเลนานกว่า 2 ชม. ซึ่งทุกคนได้สวมเสื้อชูชีพไว้ด้วย ยายซึ่งเป็นพี่สาวตนเองอายุ 80 ปีที่มีอาการตกใจและอ่อนเพลียจากการที่อยู่ในทะเลนานต้องดูแลและพยุงให้ลอยอยู่ในทะเล ระหว่างนั้นก็พยายามโทรเรียกเรือมาช่วยนานเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่เกิดเหตุได้ แต่โชคดีที่มีเรือประมง 3 ลำมาช่วยไว้ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต้องจดจำ และเข็ดไปจนตาย วันนี้ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ทุกคน โดยทั้งหมดนามสกุลเดียวกัน คือ วงศ์เดอลี
ด้านนายสมควร จันทร์ศิริ อายุ 62 ปี คนขับเรือสปีดโบ๊ท เล่านาทีชีวิตที่เกิดในครั้งนี้ ว่า หลังจากนำผู้โดยสารทุกคนรวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปทำธุระที่บ้านสลักคอกที่ ต.เกาะช้างใต้ โดยออกจากเกาะลิ่ม มุ่งสู่หน้าทะเลแหลมทองหลาง โดยปักหัวมาเลยร่องน้ำหน้าบ้านยายม่อมประมาณ 200 เมตร ห่างจากฝั่งทะเลแหลมงอบ 2 ไมล์ทะเล เรือได้แตกแยกออกเป็น 2 ส่วน และน้ำได้ทะลักเข้าในเรือ จึงเบาเครื่องแล้วให้ทุกคนสวมเสื้อชูชีพแล้วให้ผู้โดยสารโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุที่เรือแตกครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าปกติเวลาเรือวิ่งจะหน้าลอย แต่การขับมาครั้งนี้ปรากฏว่าหน้าเรือไม่ลอย ซึ่งเมื่อมาถึงบริเวณร่องน้ำด้านในก็เกิดเหตุขึ้น ตนบอกผู้โดยสารทุกคนว่าเรือไปไม่ไหวขอให้ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ และบอกยายให้เกาะหัวเรือไว้และให้ช่วยกันพยุงยายไว้
“ผมเป็นคนทะเล ประสบเหตุการณ์แบบนี้มาบ่อยจึงไม่ตกใจเท่าไร แต่ผู้โดยสารทุกคนน่าจะตกใจและช็อกกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก อยากบอกว่าชีวิตของเราเกิดได้เพียงครั้งเดียว ช่วงอยู่กลางทะเลก็ช่วยกันว่ายน้ำพยุงกันมาเรื่อย ๆ เพื่อเข้าหาฝั่ง และผมพูดอะไรไม่ค่อยถูก แต่ได้ช่วยประคองทุกคนมาเรื่อย ๆ และเตือนสติทุกคนว่าอย่าทิ้งคุณยาย จึงตัดสินใจเทน้ำมันออกจากถังแกลลอนทั้งหมด แล้วให้คุณยายจับแกลลอนไว้ แล้วผมก็ประคองคุณยายมาตลอด และบอกทุกคนว่าอย่าไปฝืนคลื่นให้ปล่อยไปตามธรรมชาติ ซึ่งระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่อยู่กลางทะเลนั้น ได้เห็นเรือของกรมประมงที่ออกมาจากแหลมทองหลาง จึงได้โบกมือให้ เขาเห็นอะไรลอยขึ้นมา ผมก็โบกมือเรื่อยๆ และเขาก็เห็นจึงวิ่งเรือเข้ามาหา ทุกคนดีใจมาก เมื่อเห็นเรือมาช่วยโดยเฉพาะคนมุสลิมด้วยกัน และช่วยกันพยุงขึ้นเรือครบทุกคน สุดท้ายได้บอกยายว่าเรือมันแตก และวันนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว” นายสมควร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี