ลอยแพ300ต่างด้าว
ผู้ว่าฯนำกำลังไล่จับ
ทะลักเข้าไทยรายวัน
รวบได้16เขมร/8ลาว
ผู้ว่าฯสมุทรสาคร นำกำลังจับแรงงานต่างด้าว ภายหลังถูกนายหน้าลอยแพ 300 คน ลวงให้มาสมัครงานที่หน้าโรงงานด้านทหารกองกำลังบูรพารวบ 16 กัมพูชาหอบลูกจูงหลาน หางานทำในไทย ส่วน นรข.อุบลฯ จับ 8 ชาวลาว กลางลำน้ำโขง เตรียมไปทำงานที่ กทม.และปริมณฑล พบจ่ายค่าหัว 3,500 บาท
เมื่อวันที่ 19 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงกลางดึกวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา นายณรงค์ รักร้อย ผวจ.สมุทรสาครพร้อมด้วย พ.อ.วินัย บุตรรักษ์ รอง ผอ.กอ.รมน.นายวุฒิพงษ์สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงาน จ.สมุทรสาคร นำกำลังลงพื้นที่โรงงานไทยยูเนียน คลองครุ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ภายหลังได้รับร้องเรียนว่ามีกลุ่มแรงงานต่างด้าวกว่า300 คน จับกลุ่มกันอยู่บริเวณหน้าโรงงานดังกล่าว เมื่อไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่นั่งอยู่ พอพบเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ต่างพากันแตกฮือ วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวไว้ได้จำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานแสดงการเข้าเมือง จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดี นอกจากนี้ ได้สอบถามไปทางโรงงานดังกล่าวว่าแรงงานที่มาจับกลุ่มอยู่หน้าโรงงานจำนวนมากมีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งทางโรงงานแห่งนี้ แจ้งว่ามีนายหน้าหลอกพามาโดยอ้างว่าโรงงานได้เปิดรับสมัครงานและจะพามาสมัครเข้าทำงาน แต่ทางโรงงานไม่ได้เปิดรับสมัครแรงงานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายณรงค์ได้กำชับให้ทางโรงงานมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19และต้องแจ้งพนักงานทราบในการดำเนินการรับสมัครงานโดยให้เป็นไปตามคำสั่งของจังหวัดสมุทรสาคร
อีกด้านหนึ่งพล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา มอบหมายให้ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่111กองกำลังบูรพา นำโดย ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1206 สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ออกลาดตระเวน เฝ้าระวัง ป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณแนวชายแดนในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา16 คน แบ่งเป็นชาย 5 หญิง 4 เด็กชาย 4 และเด็กหญิง 3 คน เดินเท้าฝ่าความมืดลอบมุดรั้วตะเข็บชายแดนจากฝั่งประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย ที่ท้ายหมู่บ้านป่าไร่ใหม่ หมู่ 8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ ระหว่างจุดตรวจ จต.อ.05 และ จต.อ.06 จึงควบคุมตัวไว้ตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบหนังสือเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย จากนั้นได้ตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนจะซักถามที่กองร้อยทหารพรานที่1206 จากการซักถามชาวกัมพูชาทั้งหมดรับสารภาพว่าเดินทางมาจากจ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อจะไปรับจ้างตัดอ้อยใน จ.สระแก้ว เนื่องจากอยู่ที่กัมพูชา มีความอดอยากไม่มีงานทำไม่มีเงินใช้ จึงหอบลูกจูงหลานเสี่ยงการระบาดของไวรัสโควิด-19ลอบเข้าประเทศไทย ช่วงกลางดึก โดยไม่ได้มีผู้นำพาหรือเสียเงินค่านายหน้าใดๆจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก รับไว้ดำเนินคดี
วันเดียวกัน น.อ.ณัฐวัชต์ วิชกูล ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) เขตอุบลราชธานี น.ต.สมเจตน์ ค้าทวี หน.สน.เรือเขมราฐนำกำลังร่วมกับ ตำรวจน้ำ กก.10 บก.รน. ตำรวจ สภ.เขมราฐ และ ตม.อุบลราชธานี ใช้เรือจู่โจมลำน้ำ 2 ลำ สกัดจับหญิงและชาย ชาวลาวพร้อมกับผู้นำพาซึ่งเป็นชาวลาวด้วยกันรวม 8 คน บนเรือหางยาวกลางลำแม่น้ำโขง เขตบ้านนาสนาม อ.เขมราฐจ.อุบลราชธานี ในขณะกำลังเดินทางเข้าไปทำงานที่ กทม.และปริมณฑล โดยเสียค่าเรือให้คนขับชื่อ ท้าวน้อย วุดทำ รายละ 500,000 กีบ หรือประมาณ 1,500 บาท และจ่ายค่านายหน้าไปแล้วรายละ 3,500 บาท จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี