ดุจ‘สงครามกรุงทรอย’!โอมิครอนตี‘กทม.’แตก เตือนเตรียมรับอาฟเตอร์ช็อก-แนะ 10 ข้อทำทันที
21 มกราคม 2565 ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งติดตามสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้...
Covid-19: Red Alert Omicron Wave ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯแตกแล้วครับ ยืนยันสถานการณ์ระดับ Exponential ในกทม. เตรียมรับแรงปะทะจาก Aftershock ขนาดใหญ่มากถึงมากที่สุดครับ
วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ Omicron สะสมทั่วประเทศจากการคำนวณแบบ Super Position ทะลุ 100,000 คนเรียบร้อยแล้ว ในจำนวนนี้ประมาณ 6,000 อยู่ในกทม. และกำลังทวีจำนวนขึ้นอย่างเร็วครับ 3 วันที่ผ่านมาตัวเลขกทม. 821 1,172 วันนี้ 1,637 เราคงไม่สามารถปิดตาข้างนึงแล้วบอกต่อไปว่า "ตัวเลขมัน Ok" ได้อีกต่อไปแล้วครับ ประชาชนจำเป็นที่จะต้องรู้ว่า "ตัวเลขแบบนี้หมายถึงอะไร"
Omicron เข้าตีกรุงฯแบบ Trojan War และบัดนี้กองทหารของ Omicron ที่ซ่อนอยู่ในม้าโทรจัน ได้ถือหอกดาบ ยาตราออกจากม้าไม้กระจายไปทั่วเมืองและน่าจะยึดเมืองหลวงสำเร็จเด็ดขาดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าครับ
ผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะเราจะแพ้แน่นอน เพราะแม่ทัพใหญ่ เพียงแค่ได้เห็นข้าศึกแสร้งถอนกำลังจากทุ่งนอกกำแพงเมือง ก็หัวใจฟูรีบสั่งถอนทัพ ลดเวรยาม ไปตั้งวงเหล้าสบายใจ ณ วินาทีนี้ สำหรับคนในพระนคร ตัวใครตัวมันครับ
ตัวเลขและกราฟ:
ตัวเลข 3 วันที่ผ่านมาโดยเฉพาะเมื่อวานและวันนี้กทม. กราฟ Super Position Wave#5 ในกทม.ยืนยัน Exponential ที่มี %Increase สูงถึง 20% หรือมี Doubling Day สั้นแค่ 4 วัน ผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มเป็น 2 เท่าทุกๆ 4 วัน
กราฟ %Increase ต่อเนื่อง Wave 3,4,5 ของกทม.กระดกหัวขึ้นแบบ Vertical หลังจากที่ถูกยันเอาไว้ได้พักใหญ่ ที่ผ่านมาเราทำกันได้ดี แต่ดีไม่พอ และไม่ยาวนานพอ
กราฟ Total Case Wave#5 ในกทม.ตัวเลขจริงเส้นสีแดงหลุดจากประมาณการเส้นประสีเหลืองแบบขึ้นดิ่ง ความชันน่ากลัวมาก
กราฟ Daily New Case ประเทศไทย เริ่มได้รับผลกระทบ สูญเสียขาทรงตัว กำลังพลิกกลับเป็นขาขึ้น จากนี้ไปตัวเลขกทม.ปริมณฑลจะเป็นตัวกำหนดกราฟแทนที่หัวเมือง
กราฟ %Increase ประเทศไทยจากเดิมเป็นขาลง กำลังเริ่มเสียทรงจะวิ่งเข้าติดกับดักที่ 8% Trap ซึ่งสูงมากๆ
สรุปเรื่องกราฟสั้นๆคือ รหัสแดง ทุกกราฟ
สิ่งที่ต้องทำทันที:
1. ปกป้องระบบสาธารณสุข ปกป้องรพ. ให้กับผู้ป่วย Non Covid ซึ่งตอนนี้ยังล้นรพ. อั้นมานานมาก ถึงเวลาที่เราต้องช่วยกันรักษารพ.สำหรับคนไข้ทุกประเภท ทุกโรคเอาไว้ให้ได้
2. WFH ในเขตกทม.ปริมณฑลต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน
3. อย่าออกนอกบ้านไปกินเหล้า อย่าตั้งวงในออฟฟิศ รวมทั้งวงส้มตำด้วย
4. ตรวจ ATK ให้ถี่ ทั้งในโรงเรียน สถานที่ทำงาน โรงงาน
5. เตรียม Home Isolation, Community Isolation, Hospitel, รพ.สนาม กลับมาเต็มกำลัง
6. การใส่หน้ากากสำคัญที่สุด ช่วยได้มากที่สุดในยามนี้ 2 ชั้นไปเลยยิ่งดี
7. รีบไปฉีดวัคซีนตามนัดหมายกันให้มากที่สุดทุกคน เพื่อลดภาระระบบสาธารณสุข ลดการป่วยหนัก ป่วยตาย จะได้รักษาตัวอยู่บ้านได้โดยปลอดภัยพอสมควร
8. นี่ไม่ใช่การซ้อม แต่คือของจริง
9. เลิกคิดได้แล้วว่า Omicron "น่ารักน่าเอ็นดู เป็นวัคซีนเชื้อเป็น ติดง่ายหายเร็ว มีอาการแค่เล็กน้อย ไม่ลงปอด" ฯลฯ ทุกวันนี้ Covid สังหารคนทั่วโลกประมาณวันละ 8,000 - 9,000 คนทุกวัน และส่วนใหญ่เป็น Omicron แล้ว ปีนึงก็น่าจะเกือบ 3 ล้านคน รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ประมาณ 5-10 เท่า
10. เราต้องหยุดมันให้ได้โดยทันที เพราะถ้าทำไม่ได้ กทม.สถานีถัดไปคือ 5,000 ในช่วงสัปดาห์หน้า และจะไปต่อที่ 10,000 ก่อนสิ้นเดือนและเลวร้ายสุดสามารถไปไกลได้ถึง 70,000 คนต่อวันต่อประชากร 10 ล้านแบบ Israel
เมื่อเราพูดถึง Trojan War เมื่อราว 3,300 ปีก่อน เราจะนึกถึงความประมาท การดูแคลนศัตรู พวกทรอยเสียเมืองวอดวายก็ด้วยเหตุนี้ แต่ทุกศึกสงครามก็ย่อมต้องมีวันที่จะสิ้นสุดลง สงครามโทรจันก็เช่นกัน พวกทรอยเสียเมืองไปก็หนีไปสร้างเมืองใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม นั่นก็คือกรุงโรม ครั้งนี้ก็เช่นกัน สงคราม Omicron ก็จะต้องยุติลงไม่ช้าก็เร็ว แต่ก็เหมือนสงครามกรุงทรอยครับ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ออกจากเมือง และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปใช้ชีวิตใหม่ในกรุงโรม
ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ ดูแลคนที่ท่านรักและครอบครัว สู้เต็มที่อย่าประมาท แล้วจะผ่านมันไปได้แน่นอนครับ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี