อุตุฯชี้เหนือ-อีสาน
อุณหภูมิเย็นลงอีก
อากาศแปรปรวน
ฝนตามกระหน่ำซ้ำ
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ไปจนถึงวันที่ 28 มกราคม อุณหภูมิจะลดลงกับมีอากาศเย็นถึงหนาว ด้านโฆษกสาธารณสุข เตือนภาวะช็อกจากอากาศหนาว “ไฮโปเทอร์เมียร์” แนะสร้างความอบอุ่นร่างกาย ห้ามดื่มสุราคลายหนาว เพราะยิ่งดื่มยิ่งสูญเสียความร้อนในร่างกาย จนอุณหภูมิร่างกายต่ำ และเสียชีวิตได้
เมื่อวันที่ 22 มกราคม กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือและภาคกลาง ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง
โดยหลังจากนี้ในวันที่ 23-28 ม.ค.65 อุณหภูมิจะลดลงกับมีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 3-5 องศาฯ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาฯ กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นฉับพลันว่า ช่วงนี้เริ่มมีอากาศกลับมาหนาวเย็นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบว่ามีประชาชนบางส่วนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น คลายหนาวและลดความปวดเมื่อย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้ผู้ดื่มมีความรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงชั่วครู่จากการที่หลอดเลือดฝอยขยายตัว และจะเป็นช่องทางระบายความร้อนออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มาก ความร้อนก็จะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้น ทำให้เกิดภาวะอุณหภูมิในร่างกายต่ำลงกว่าปกติ หรือ “ไฮโปเทอร์เมีย (hypothermia)” ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะในร่างกาย นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุของการการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินด้วย
“หากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะกดประสาทส่วนกลางทำให้เกิดอาการง่วง ซึม หลับไปท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และหากมีเครื่องนุ่งห่มให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอ จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้สูง เนื่องจากเมื่อร่างกายสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานาน เลือดจะหนืดขึ้น ส่งผลต่อการไหลเวียนไปยังอวัยวะต่างๆ ทำให้ขาดออกซิเจน หัวใจจะทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้” นพ.รุ่งเรืองกล่าว
นพ.รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขขอแนะนำ 6 วิธีปฏิบัติตนในภาวะอากาศหนาว ดังนี้ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอุ่มช่วยปรับสมดุลร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอกระตุ้นให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นภายใน ไม่ควรอาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวแห้งเสีย และทาผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื่นของผิว
เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสองให้แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือต้ม เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง
งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงภาวะอากาศหนาว เนื่องจากเป็นปัจจัยเสริมสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตในช่วงอากาศหนาวได้
ระมัดระวังและสังเกตอาการผู้ป่วยที่กินยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยารักษาอาการชัก ที่มีผลทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง
ในช่วงอากาศหนาวอาจทำให้เกิดโรคติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ และโรคทางเดินหายใจ ซึ่งขณะนี้มีการระบาดของโรคโควิด 19 จึงเน้นย้ำป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว
หมั่นดูแลรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และอาศัยอยู่ในที่อบอุ่นสามารถป้องกันลมหนาวอย่างเหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี