ผวาโควิดลามแนะงดเดินทาง
นายกฯห่วงตรุษจีน
ป่วย8,112ดับ19/กทม.ยังหนัก
แห่ฉีดบูสเข็มที่3แน่นศูนย์บางซื่อ
“นายกฯ” ห่วงไวรัสโอมิครอนระบาดช่วงตรุษจีน แนะประชาชนเลี่ยงเดินทางโดยไม่จำเป็น ลดแออัด เพื่อให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 8,112 ราย เสียชีวิต 19 ศพ กรุงเทพฯ ติดเชื้อ 1,143 ราย ยอดเกิน 1 พันต่อเนื่องเป็นวันที่สาม “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ออกประกาศร้านอาหารนั่งดื่มถึง 5 ทุ่ม ผับ-บาร์-โอเกะ ยื่นขออนุญาตปรับรูปแบบสถานประกอบการต่อสำนักงานเขต ส่วนอำนาจเจริญและโคราชยังน่าเป็นห่วง พบคลัสเตอร์ลามหนัก
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นห่วงการระบาดของโอมิครอนในช่วงตรุษจีน แนะประชาชนเลี่ยงเดินทางโดยไม่จำเป็น ลดแออัด ย้ำปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ก.พ. 65 ถือเป็นวันต้อนรับปีใหม่ของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน คาดว่า ภาพรวมเทศกาลตรุษจีนปีนี้ยังมีความคึกคัก เพราะเป็นเทศกาลเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ของพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีน
อย่างไรก็ตาม การฉลองเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ต้องปรับรูปแบบกิจกรรมต่างๆ จากเดิมที่มีการรวมตัวของคนในครอบครัว ให้เน้นปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อภายในครอบครัวและชุมชน รวมทั้งให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการฉลองตรุษจีนทางออนไลน์มากขึ้น เพราะแม้ ศบค. จะผ่อนคลายมาตรการให้ดำเนินกิจกรรมกิจการได้ แต่กระทรวงสาธารณสุขยังคงระดับการเตือนภัย ระดับ 4 เหมือนเดิม
แนะปฎิบัติตามมาตรการ สธ.
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังแนะประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1) วันจ่าย : ควรวางแผนการซื้อและใช้เวลาให้สั้นที่สุด เลือกซื้อสิ้นค้าสดใหม่จากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดที่มีการประเมิน Thai Stop COVID 2 Plus หรือจากร้านค้าที่มีระบบออนไลน์ หากจับจ่ายในตลาดให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง เลี่ยงจุดแออัด
2) วันไหว้ : ล้างวัตถุดิบให้สะอาด ปรุงอาหารสุกทุกเมนู หากทิ้งอาหารไว้นานหลายชั่วโมงให้อุ่นอาหารอีกครั้งก่อนนำมาบริโภค ลดการเผากระดาษ ใช้ธูปสั้นหรือธูปไฟฟ้า เลี่ยงการปักธูปลงในอาหารโดยตรง จัดสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมทั้งสวมหน้ากากตลอดเวลาขณะที่ทำกิจกรรม
3) วันเที่ยว : ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ รักษาระยะห่าง เลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เลือกใช้บริการจากสถานประกอบการ แหล่งท่องเที่ยวที่มีสัญลักษณ์ Thai Stop COVID 2 Plus หรือ SHA+ และเมื่อกลับถึงบ้านให้ทำความสะอาดร่างกายทันที
ติดเชื้อเพิ่ม8,112ราย เสียชีวิต19ศพ
ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย มีรายละเอียดดังนี้ ติดเชื้อในประเทศ 8,112 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 154 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 177 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 7,582 ราย หายป่วย สะสม 2,264,564 ราย (ตั้งแต่ปี 2563) อยู่ระหว่างรักษาตัว 83,231 ราย แบ่งเป็น ในโรงพยาบาล 41,825 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 41,406 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 565 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 129 ราย
มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 19 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 22,019 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,369,814 ราย ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 26 ของโลก
กรุงเทพฯติดเชื้อทะลุ1พันเป็นวันที่สาม
สำหรับผู้ติดเชื้อ 8,112 รายใหม่ แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,746 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 35 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 154 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 177 ราย
ส่วนยอดการตรวจ ATK วันที่ 20 ม.ค. 65 ตามการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข มียอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจำนวน 2,095 ราย โดยจำนวนนี้ไม่รวมในการรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ซึ่งยืนยันผลด้วย RT-PCR
สำหรับ 5 อันดับจังหวัดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,143 ราย สมุทรปราการ 645 ราย ชลบุรี 395 ราย ภูเก็ต 385 ราย และนนทบุรี 359 ราย
ไฟเขียวร้านยื่นขออนุญาตปรับรูปแบบ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกประกาศสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 50 โดยในเนื้อหาระบุว่า ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 50) ตามที่ได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 49) ลงวันที่ 8 มกราคม 2565 นั้น ต่อมาได้มีการประกาศใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 42) ลงวันที่ 21 มกราคม 2565 โดยที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) สามารถแพร่ได้เร็ว และมีโอกาสทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และประเทศไทยได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของภาคประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพและการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจังขันแข็งของพนักงานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายสาธารณสุขฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ได้ช่วยให้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างไรก็ดี ยังคงต้องเพิ่มการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อควบคุมการระบาดในบางพื้นที่เสี่ยงที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนโดยเฉพาะในชุมซนหรือสถานที่เสี่ยงที่มีการรวมกลุ่มของบุคคล จึงสมควรปรับปรุงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุข
ดังนั้น เพื่อปรับปรุงมาตรการตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 49) ลงวันที่ 8 มกราคม 2565 ให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (6) และมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
อำนาจเจริญคลัสเตอร์งานแต่งลาม
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โควิด-19 จ.อำนาจเจริญ ว่า มีผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 34 ราย ติดเชื้อกระจายออกไป จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองอำนาจเจริญ มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 8 ราย, อ.ปทุมราชวงศา มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 1 ราย, อ.พนา มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 1 ราย, อ.เสนางคนิคม มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 13 ราย ผลพวงจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนงานแต่งงาน ในพื้นที่ ต.เสนางคนิคม โดยมีผู้ติดเชื้อไปแล้ว จำนวน 50 ราย และยังมีกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว 14 วันอีก จำนวน 80 ราย ทำให้ชาวบ้านตำบลเสนางคนิคมเงียบเหงา ไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะกังวล หวาดผวา เกรงจะติดโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน จึงต้องอยู่แต่ในบ้านกันทุกคน แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่มีคำสั่งปิดหมู่บ้าน แต่เหมือนปิดหมู่บ้าน เพราะตลาดร้านค้า ปิดเงียบสนิท เนื่องจากไม่มีการประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของใดๆ ส่วน อ.หัวตะพาน มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 2 ราย, อ.ลืออำนาจ มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 9 ราย ผลพวงจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อน งานวันเกิด ที่ ต.โคกกลาง ซึ่งทีผ่านมามีผู้ติดเชื้อแล้ว จำนวน 50 ราย
โคราชยอดติดเชื้อขยับพรวด180ราย
ที่ จ.นครราชสีมา คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันต่อวันล่าสุด จ.นครราชสีมาพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 180 ราย วันนี้ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต ผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 293 ราย รวมผู้ป่วยสะสมจำนวน 36,877 ราย รักษาหายสะสม 34,679 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 1,905 ราย พบติดเชื้อในพื้นที่จังหวัด 165 ราย นอกพื้นที่จังหวัด 15 ราย โดย อ.เมืองนครราชสีมาพื้นที่สีแดงติดเชื้อมากที่สุด 69 ราย รองลงมา อ.ปากช่อง 19 ราย ส่วนโอมิครอนสะสมอยู่ที่ 17 ราย
เฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด
ขณะที่การเกิดคลัสเตอร์ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ และทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ให้ความสำคัญมีความห่วงใยและกังวลการเกิดคลัสเตอร์ในพื้นที่ อ.ครบุรี ซึ่งเกิดถึง 3 คลัสเตอร์ที่ต้องมีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดเข้มข้น ประกอบด้วย 1.คลัสเตอร์ โรงเรียนครบุรีวิทยา ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี รวมมีผู้ติดเชื้อ 15 ราย และการค้นหาเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง, 2.คลัสเตอร์ บ้านหนองบัว หมู่ 6 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรีฯ ตรวจพบผู้ป่วย 14 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 35 รายทำการกักตัว และ 3.คลัสเตอร์บ้านสระหลวง ต.จระเข้หิน อ.ครบุรีฯ ผู้ป่วยทั้งหมด 10 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 57 ราย โดยทั้งหมดมีการตรวจค้นหาเชิงรุกและอยู่ในความดูแลของ ศปก.ครบุรีฯ และทีมสอบสวนโรคสาธารณสุขอำเภอ และ รพ.สต.ในพื้นที่
ส่วนคลัสเตอร์อื่นๆก็ยังคงเฝ้าจับตาใกล้ชิดไม่แพ้กัน อาทิ คลัสเตอร์ งานวันเกิด หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมือง รวมมีผู้ติดเชื้อแล้ว 28 ราย , คลัสเตอร์ เครือญาติบ้านหนองกระชาย หมู่ 11 ต.โคกสูง อ.เมือง รวมมีผู้ติดเชื้อ 30 ราย , คลัสเตอร์ ร้าน U-Like ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง มีผู้ติดเชื้อ 24 ราย , คลัสเตอร์ บริษัท สยามฟูโกกุ จำกัด อ.สูงเนิน มีผู้ติดเชื้อแล้ว 11 ราย และ คลัสเตอร์ งานแต่งงาน หมู่ 5 บ้านทัพมะขาม ต.บ้านปรางค์ อ.คง มีผู้ติดเชื้อ 20 ราย โดยมีการค้นหาเชิงรุกทุกแห่ง
เดินหน้าฉีดวัคซีนให้ประชาชน
ส่วนที่หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช นพ.เจษฏ์ บุญยวงษ์วิโรจน์ ผู้ช่วย ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ จิตอาสา เปิดการให้บริการในการฉีดวัคซีนเพื่อให้ครอบคลุมพี่น้องประชาชน ผู้สูงอายุ 608 กลุ่มเป้าหมาย สตรีมีครรภ์ให้ต่อเนื่อง เป็นวัคซีนไฟเซอร์, แอสตราเซนิกา และการฉีดกระตุ้นเข็ม และเข็ม 4 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมฉีด 3,000 คน นอกจากนี้มีการตรวจ ATK บริการฟรี พร้อมใบรับรอง จำนวน 200 ราย
กาญจนบุรีคุมเข้มร้านอาหารขายเหล้า
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี และ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงนามในประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 247/2565 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (เพิ่มเติม ครั้งที่ 2) ตามอนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 5473/2564 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 72/2565 ลงวันที่ 9 มกราคม 2565 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 (COVID - 19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (เพิ่มเติม) โดยกำหนดให้บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2565 นั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติ สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว (เพิ่มเติม) ดังนี้ ข้อ 1 การบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว จะเปิดให้บริการได้เฉพาะร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration) ในระดับ SHA PLUS ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผ่านการตรวจมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID - 19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop Covid2 Plus) ของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยแล้วเท่านั้น และให้บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา
และ ข้อ 2 คำสั่งใดขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งฉบับนี้แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
เชียงรายพบติดเชื้อใหม่18ราย ดับ1ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้รายงานสถานการณ์โรคโควิด 19 จังหวัดเชียงราย พบผู้ติดเชื้อตรวจยืนยัน RT-PCR จำนวน 18 ราย ติดเชื้อภายในจังหวัด 18 ราย มาจากการสัมผัสผู้ป่วยใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 11 ราย อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ไม่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย 5 ราย สัมผัสในครอบครัว 2 ครอบครัว 2 ราย พบในพื้นที่-อ.เมืองเชียงราย 11 ราย (ต.ท่าสาย 2 ราย, ต.ริมกก 2ราย ,ต.สันทราย 2 ราย,ต.รอบเวียง 1 ราย,ต.บ้านดู่1 ราย, ต.นางแล 1 ราย, ต.แม่ยาว 1 ราย, ต.เวียง 1 ราย) -อ.แม่สาย 4 ราย (ตเวียพางคำ 2 ราย, ต.บ้านด้าย 1 ราย, ต.เกาะช้าง 1 ราย) -อ.เทิง1 ราย (ต.แม่ลอย 1 ราย) -อ.พาน 1 ราย (ต.ทรายขาว 1 ราย) - อ.แม่จัน 1 ราย (ต.แม่ไร่ 1 ราย) พบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ตรวจ ATK รวม +145 รายในจังหวัด +145 ราย (3 อันดับสูงสุด อ.เมือง 91 ราย อ.พาน 17 ราย อ.แม่ฟ้าหลวง 9 ราย)
จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม (ตั้งแต่ 1 ม.ค.65) ผู้ติดเชื้อยืนยัน (RT-PCR) ในจังหวัด 623 ราย ต่างจังหวัด 72 ราย รวม 695 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ตรวจ ATK) ในจังหวัด 3,190 ราย ต่างจังหวัด 12 ราย รวม 3,202 ราย
ด้านการรักษา ผู้ติดเชื้อยืนยัน (RT-PCR) วันนี้ รักษาหายเพิ่ม 27 ราย กำลังรักษา 400 ราย รักษาหายสะสม 290 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ตรวจ ATK) วันนี้ รักษาหายเพิ่ม 213 ราย กำลังรักษา 1,785 ราย รักษาหายสะสม 1,417 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (RT-PCR +1 ราย, ATK 0 ราย) เสียชีวิตยอดสะสม (ตั้งแต่ 1 ม.ค.65)(RT-PCR) 5 ราย (ATK) 0 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี