ดีเดย์! สอบปากคำ 114 รายบริษัทนำเข้ารถหรู มี.ค.นี้ อธิบดีดีเอสไอพบข้อมูลมีทั้งเลิกกิจการ-ถูกฟ้องล้มละลาย ยันมั่นใจฟ้องเรียกคืนภาษี 2,600 ล้านบาท รวมทั้งค่าปรับกว่า 10,000 ล้านบาท ได้จากผู้ครอบครองได้ตามกฎหมาย
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 12.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจโทพเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 นางนัธพรรณ หว่านพืช อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนายฉัทปนัย รัตนพันธ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานการสอบสวน ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ให้เข้าร่วมสอบสวนกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรณี การนำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อหลีกเลี่ยงอากร (กรณีรถหรู) จำนวน 854 คัน เพื่อดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารถยนต์ จำนวน 114 ราย
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ดีเอสไอได้มีการประชุมเปิดคดี โดยได้เชิญอัยการ 3 ท่านที่อัยการสูงสุดมอบหมายให้เข้ามาเป็นพนักงานสอบสวนมาร่วมประชุมด้วย ซึ่งที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางและประเด็นการสอบสวน ขั้นตอนและวิธีการดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในคดี โดยอัยการมีข้อเสนอแนะในการทำคดีพร้อมทั้งจะนำประเด็นข้อสงสัยของพนักงานสอบสวนไปหารือกับอัยการสูงสุด เช่น การอายัดรถของกลาง หรือการคืนรถของกลาง เพื่อให้การทำคดีเป็นไปในแนวทางเดียวกัน สำหรับรถหรูจำนวน 854 คัน เป็นรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ 724 คัน และจดทะเบียนในต่างจังหวัด 130 คัน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้รับแฟ้มพยานเอกสารจากกรมขนส่งและกรมศุลกากรแล้ว ทำให้คดีมีความชัดเจนมากขึ้น โดยดีเอสไอจะตั้งเป็นคดีพิเศษ 114 คดี มีนิติบุคคล 113 ราย และบุคคลธรรมดา 1 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ไม่มีรถหรูที่เกี่ยวข้องกับพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ แต่รายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้ง 114 คดี เป็นกลุ่มบริษัทใหม่ บางบริษัทนำเข้ารถ 10-100 คัน
"เบื้องต้นพบว่ามีบริษัทปิดกิจการไปแล้ว ขณะที่บางบริษัทถูกฟ้องล้มละลาย อย่างไรก็ตาม แม้ความเป็นนิติบุคคลจะสิ้นสุดลง แต่ดีเอสไอยังสามารดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการ หรือกรรมการบริษัท หรือผู้ครอบครองรถ เพื่อเรียกคืนภาษีที่ขาด 2,600 ล้านบาท รวมทั้งค่าปรับกว่า 10,000 ล้านบาทได้ ทั้งนี้ ต้นดือนหน้าจะเริ่มเรียกผู้ที่มีรายชื่อครอบครองรถมาสอบปากคำ และคาดว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ภายใน 31 มี.ค.นี้ ตามกรอบระยะเวลาที่ตั้งไว้ ส่วนการดำเนินคดีรถหรูอีก 574 คัน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองคดีพิเศษภาค ปัจจุบันเหลือรถอีก 324 คันที่กำลังจะเสนอเป็นคดีพิเศษ และตนได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนกองคดีพิเศษภาคทั้ง 10 ศูนย์กลับเข้ามาส่วนกลาง เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีคาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จในระยะเวลาที่ใกล้กัน" นายไตรยฤทธิ์ กล่าว
ด้าน นายวัชรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันครั้งแรกระหว่างดีเอสไอและอัยการ ซึ่งเราได้ให้ข้อคิดและข้อหารือต่างๆ ในประเด็นที่สำคัญทางคดีที่ดีเอสไอสอบถามมา เชื่อว่าถ้าดำเนินการในแนวทางนี้ก็จะเดินไปในแนวทางเดียวกัน และคาดว่าพยานหลักฐานที่รวบรวมมาจะสามารถดำเนินคดีในส่วนนี้ได้ หลังจากนี้จะกลับไปหารือกับอัยการสูงสุด เพื่อขอให้แต่งตั้งพนักงานอัยการเข้ามาร่วมสอบเพิ่มเติม เนื่องจากมีคดีที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี