‘กองทัพเรือ’ยุติภารกิจการขจัดคราบน้ำมันกลางทะเลระยอง ส่งมอบพื้นที่ให้กรมเจ้าท่า เร่งฟื้นฟูทรัพยากร จ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ยัน ‘เกาะเสม็ด’ เที่ยวเล่นน้ำได้ ส่วน ‘หาดแม่รำพึง’ เที่ยวได้ แต่ชะลอลงเล่นน้ำทะเลไปก่อน ด้าน‘กรมควบคุมมลพิษ’เฝ้าระวังคุณภาพน้ำอย่างน้อย 3 ปี
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง , นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า , ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , นายธีรพล ประภากร ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน , นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) , พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 , พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ร่วมแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติงานการขจัดคราบน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง
พล.ร.ท.พิชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางกองทัพเรือได้เข้าดำเนินเก็บกู้ตั้งทราบเรื่อง ระดมสรรพกำลังของกองทัพเรือ ทั้งยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ดำเนินการเก็บกู้คราบน้ำมันทันที ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังพร้อมให้สนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งทาง ผบ.ทร.มีความเป็นห่วงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทั้งภาคการท่องเที่ยว ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว จนการกู้คราบน้ำมันสำเร็จ จึงได้มีการปิดศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันรั่วดังกล่าว หลังไม่พบคราบน้ำมันแล้ว และส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปฟื้นฟู
ด้านนายอาวีระ ภัคมาตร์ ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลชายหาดระยอง เป็นข้อมูลพื้นฐานความเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำทะเล ทั้งนี้ควรเลี่ยงลงเล่นน้ำบริเวณลานหินขาวหินดำ-ก้นอ่าวในช่วงนี้ไปก่อน โดยเฉพาะเด็กเพราะมีผิวที่บอบบาง ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษ ต้องใช้เวลาในการเฝ้าระวังต่อไปอย่างน้อย 3 ปี เพื่อตรวจสอบว่าคุณภาพน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่
ด้านนายโดบริค กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคน ที่ช่วยอย่างเต็มกำลังจนประสบผลสำเร็จในวันนี้ SPRC พร้อมฟื้นฟูให้กลับมาสู่สภาวะปกติ รวมถึงการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมเยียวยาความเสียหาย รวมถึงฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่เสียหายในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่นายชาญนะ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างรวดเร็ว โดยนายกรัฐมนตรี รับทราบสถานการณ์ มอบ รมว.ลงพื้นที่ และมาให้คำแนะนำร่วมกัน สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกู้คราบน้ำมันจนแล้วเสร็จ จนสามารถควบคุมได้ มีคราบน้ำมันเข้าฝั่งเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น ซึ่งก็สามารถดำเนินการควบคุมได้อย่างรวดเร็ว แต่ทางจังหวัดยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกาะเสม็ด
ทั้งนี้สิ่งที่จะทำต่อไปคือเรื่องค่าเยียวยาชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจะใช้บทเรียนน้ำมันรั่วครั้งที่แล้ว ที่มีคำพิพากษาศาลเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว เบื้องต้นแนะนำทางบริษัทฯไม่จำเป็นต้องมีการเจรจาจนแล้วเสร็จ เพราะ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนไม่มีรายได้ ควรจะอนุมัติเงินมาจำนวนหนึ่งมาชดเชยก่อนภายในสัปดาห์หน้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ต่อมาทางกองทัพเรือ ได้ส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมเจ้าท่าไปดำเนินการฟื้นฟูความเสียหายของสิ่งแวดล้อมต่อไป ซึ่งทางกองทัพเรือ ก็ยังคงจะให้การสนับสนุนต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี