ทีม FIKA จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (มทม.) ร่วมกับ RV Connex สร้างชื่อให้กับประเทศไทย คว้ารางวัลรองชนะเลิศการแข่งขัน APSCO “Competition on Discovering Historical Cultural Heritage with Eye in Space” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดโดยองค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก หรือ ASPCO (Asia-Pacific Space Cooperation Organization)ร่วมกับ International Centreon Space Technologies for Naturaland Cultural Heritage (HIST)ภายใต้การอุปถัมภ์ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) บริษัท PIESAT Information Techno-
logy Co., Ltd. (PIESAT), Belt and Road Aerospace Innovation Alliance(BRAIA), Belt and Road Cultural Heritage Global Alliance (BRCHGA) และ Commission on Geoheritage of the International Geographical Union (IGU-COG)
เมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมาสำนักงานใหญ่ องค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก (APSCO) กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการประกาศผลการตัดสินการแข่งขันAPSCO “Competition on DiscoveringHistorical Cultural Heritage with Eye in Space” รอบชิงชนะเลิศ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยรางวัลชนะเลิศเป็นทีมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รางวัลที่ 2 คือ ทีม FIKA จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ประเทศไทย และทีมจากประเทศอียิปต์ และรางวัลที่ 3 เป็นทีมจากประเทศปากีสถาน จีน และโรมาเนีย
สำหรับทีม FIKA เป็นการรวมตัวของนักวิจัยและวิศวกรจากมทม. และบริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน นำทีมโดย ผศ.ดร.สุพงษาเขตต์คีรี อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ ตำแหน่ง Instructorนายอนิวัฒน์ ปลอดภัย ตำแหน่งResearcher ศูนย์วิจัยดาวเทียมไทพัฒมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และนายบรรณกร เพชรทวีธรรม ตำแหน่ง Technical Specialist (GIS) นายอนวัตร ทองทา ตำแหน่ง Software Engineer บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด โดยมี ผศ.ดร.สมพงษ์ เลี่ยงโรคาพาธ หัวหน้าภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน
การแข่งขัน APSCO “Competition on Discovering Historical Cultural Heritage with Eye in Space” คือ การแข่งขันการค้นพบมรดกทางวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์โดยใช้อุปกรณ์รับรู้จากอวกาศ ที่เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการรับรู้จากระยะไกล (remote sensing) และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อวิเคราะห์และค้นหาโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์จากภาพที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกำหนดให้ การแข่งขันดังกล่าวใช้ระยะเวลาการแข่งขัน ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2564 ถึง 7 มกราคม 2565 ซึ่งรวมถึงการฝึก การแข่งขันเบื้องต้น และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผ่านการนำเสนอในวันที่ 25 มกราคม 2565 โดยเกณฑ์การตัดสินและการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ การประมวลผลข้อมูลการรับรู้ระยะไกล การตีความซึ่งอิงจากการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม และระบบสามมิติ (3D)/ความเป็นจริงเสมือน (VR)
ความสำเร็จของทีม FIKA ที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศในครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพและความร่วมมือของทีมนักวิจัย คณาจารย์และวิศวกรของมหาวิทยาลัยฯ และภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งมั่นพัฒนางานวิจัย สร้างสรรค์แนวคิดและผสมผสานเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นนวัตกรรมระดับโลกได้เป็นอย่างดี และผลงานที่สร้างชื่อของนักวิจัย คณาจารย์และนักศึกษารุ่นพี่เหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้กับนักวิจัยและวิศวกรในรุ่นต่อไป เพื่อสร้างเสริมทักษะและความเชี่ยวชาญอันจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทรงพลัง พร้อมสำหรับการต่อยอดเป็นธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยต่อไป