ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามพร้อมแถลงความคืบหน้ากรณี 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวต่างชาติเสียชีวิตหน้าวิลล่าหรูในพื้นที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต เชื่อเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมข้อมูลคลี่คลายคดีโดยเร็วที่สุด เผยเบาะแสน่าจะเป็นระดับพระกาฬ เข้ามาในพื้นที่ดูลาดเลาก่อน 1 สัปดาห์ ทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยว ชอบเล่นฟิตเนสก่อนลงมือสังหารเหยื่อสุดโหด
7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่กองบังคับกรตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุมเร่งรัดติดตามการสืบสวนสอบสวนกรณี นายซิง แมนดีฟ สัญชาติแคนาดา ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าวิลล่าในพื้นที่ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา โดยประชุมร่วมกับทีมตำรวจชุดสืบสวนและคลี่คลายคดีดังกล่าวโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'บิ๊กปั๊ด'บินด่วนลงภูเก็ตลุยคดียิงชาวแคนาดา แฉประวัติไม่ธรรมดาฉายา'ไอ้หน้าบาก')
โดยผบ.ตร.กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลที่เชื่อมั่นว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง โดยผู้ตาย เกิดที่ประเทศอินเดีย ถือสัญชาติอินเดีย จนอายุ 6-7 ขวบ ได้อพยพไปอยู่ประเทศแคนนาดา โดยมีขื่อจริงว่า จิมมี่ และทราบว่าทางแคนนาดา ได้เนรเทศผู้ตายออกจากประเทศ เนื่องจากทำความผิดร้ายแรง ส่วนแนวทางคดีมุ่งประเด็นเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งได้มีการประสานความร่วมมือกับทางประเทศแคนนาดาและอินเดียอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในส่วนของข้อมูลผู้ตายที่มีการใช้พาสปอร์ตของผู้อื่นนั้น การตรวจสอบการเข้าประเทศ เดิมทีหนังสือเดินทางใช้ตรวจสอบแบบพิมพ์ลายนิ้วมือตามปกติ ก่อนมาใช้ระบบไบโอเมสติก ซึ่งการตรวจเอกสารประวัติเป็นการตรวจสอบข้อมูลจากต้นทางที่นำมายื่นแสดง ซึ่งหากทางแคนนาดาไม่แจ้งประวัติข้อมูลอาชญากรรมก็จะไม่สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อมูลอยู่ระหว่างให้ ตม. ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ก่อนแจงรายละเอียดได้
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสืบสวนพบ 2 มือปืนที่ก่อเหตุ ได้มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ก่อนลงมือสังหารผู้ตายราว 1 สัปดาห์ โดยมือปืนทั้ง 2 มักจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยทำตัวเหมือนกับชาวต่างชาติที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตทั่วไป จึงเชื่อได้ว่ามือปืนอาจอยู่ในพื้นที่หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย จนผู้ตายเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต และสบโอกาสจึงลงมือสังหาร เนื่องจากผู้ตายอยู่เพียงลำพัง
-001