“คุณหญิงกัลยา” ตรวจเยี่ยมสนามสอบ O-NET ชั้นป.6 โรงเรียนพญาไท ยืนยันจัดสอบตามความสมัครใจ ไม่ขัดประกาศ ศธ.ที่ยกเลิกใช้ผลสอบ O-NET ตั้งแต่ปี 64
12 ก.พ.2565 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.ศิริดา บุรชาติ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน), ดร.ชนาธิป ทุ้ยแป รองผู้อำนวยการสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน , ดร.พิเชษฐ์ วันทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6(ป.6) ณ สนามสอบโรงเรียนพญาไท โดยมี ดร.พีรานุช ไชยพิเดช ผู้อำนวยการโรงเรียนพญาไท และคณะครูให้การต้อนรับ
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า การจัดสอบ O-NET ของนักเรียนชั้น ป.6 ครั้งนี้ ทราบว่ามีนักเรียนต้องการเข้าสอบถึง 90% เพราะต้องการทดสอบความรู้ของต้วเอง จึงสมัครใจเข้าสอบ O-NET โดย สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) (องค์การมหาชน) ได้จัดสอบ O-NET นักเรียนชั้น ป.6 ทั่วประเทศ กว่า 5 แสนคน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามมาตรการที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และสาธารณะสุขจังหวัด กำหนดอย่างเคร่งครัด และ สทศ.มีการพัฒนาการทดสอบพิ่มขึ้นโดยมีการสอบข้อเขียน (อัตนัย) วิชาภาษาไทย เพื่อให้นักเรียนฝึกการอ่านเขียนได้อย่างมีวิจารณญาณ นอกจากนี้ สทศ. ยังนำร่องการทดสอบด้วยระบบดิจิทัล (Digital Testing) ของนักเรียนชั้น ป.6 ในโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดน 4 แห่งด้วย
คุณหญิงกัลยา กล่าวถึงสาเหตุที่ สทศ. ยังมีการจัดสอบ O-NET อยู่ เนื่องจากการเรียนของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 นักเรียนจะได้ทราบว่าตนเองนั้นมีความรู้อยู่ในระดับใดในวิชาสำคัญ 4 วิชา คือ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ทั่วไป แต่ถ้านักเรียนไม่สอบทางโรงเรียนก็ไม่ได้บังคับ แต่วันนี้ รู้สึกดีใจที่เด็กมาสอบด้วยความสมัครใจ เพื่อจะนำผลการสอบปรับปรุงตัวเอง และทางโรงเรียนก็จะได้ใช้ข้อมูลเหล่านี้พัฒนายกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนทั้งโรงเรียนต่อไป
“การจัดสอบ O-NET ครั้งนี้ไม่น่าจะขัดกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ที่ยกเลิกการใช้ผลการสอบ O-NET ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เพราะทางโรงเรียนไม่ได้นำผลการสอบ O-NET นี้ไปใช้ อะไร แต่เด็กอยากรู้เองว่าตัวเองมีความรู้เท่าไหร่ จะได้พัฒนาตัวเอง และทางโรงเรียนก็ไม่ได้บังคับให้นักเรียรสอบ O-NET ด้วย ส่วนที่มีโรงเรียนบางพื้นที่นำผลการสอบ O-NET ไปจัดอันดับโรงเรียนนั้น ก็เป็นไปได้ที่โรงเรียนจะนำข้อมูลรวมของนักเรียนที่ได้คะแนน 90% ซึ่งเกินครึ่งของคะแนนเฉลี่ยของทั้งประเทศ เป็นความภูมิใจและแข่งขันกัน ทำความดี ส่วนโรงเรียนที่คะแนนรวมยังไม่ถึง 90% ก็ต้องพยายามจัดการเรียนการสอนให้ดีขึ้น ดังนั้น การจัดสอบ O-NET จึงไม่น่าจะขัดกับประกาศของกระทรวงฯ หรือขัดกับกฏหมายข้อบังคับ เพราะถ้าโรงเรียนต่าง ๆไม่รู้สถานะของตัวเองว่าอยู่ตรงไหน ก็จะไม่พัฒนา ถ้าพัฒนาแล้วก็เป็นความดีความชอบของครู ผู้อำนวยการโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนได้ดีขึ้น ส่วนโรงเรียนที่มีการจัดติวให้กับนักเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบ O-NET นั้น ถ้ากฏหมายบอกว่าไม่บังคับ ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของโรงเรียน และนักเรียน ผู้ปกครอง และถ้าผู้ปกครองเข้าใจ ก็ไม่จำเป็นต้องติวเพื่อให้นักเรียนเกิดความเครียด เมื่อถึงเวลาก็มาทดสอบเพื่อให้รู้ว่าตัวเองมีความรู้อยู่ในระดับใดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และจะไม่มีผลระหว่างเด็กที่สอบกับไม่สอบ O-NET แต่อย่างใด เพราะโรงเรียนให้เด็กเลือกเองว่าจะสอบหรือไม่สอบ เพราะไม่ได้มีการบังคับ” คุณหญิงกัลยา กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ศิริดา ผอ.สทศ.กล่าวว่า สทศ.ได้ดำเนินการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 ณ สนามสอบทั่วประเทศ โดยชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผู้มีสิทธิ์สอบ 535,210 คน (มีสนามสอบ 4,804 สนาม ห้องสอบ 24,138 ห้อง) นอกจากสอบด้วยเปเปอร์แล้ว ในปีนี้ สทศ. ได้ดำเนินการนำร่องการทดสอบด้วยระบบดิจิทัล (Digital Testing) ในการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีจำนวนผู้มีสิทธิ์สอบ 102 คน ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 4 แห่ง
นอกจากนี้ สทศ. ได้นำรูปแบบข้อสอบอัตนัยมาใช้ในการทดสอบ O-NET วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้น ป. 6 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลการทดสอบและการตรวจกระดาษคำตอบอัตนัย วิชาภาษาไทย พบว่า การสอบอัตนัยทำให้นักเรียนพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การเชื่อมโยงความคิด และนักเรียนยังได้ฝึกฝนการเขียน การจับประเด็น การสรุปความ การจับใจความสำคัญ รวมทั้งสามารถบูรณาการความคิดและสื่อสารออกมาในรูปแบบการเขียนด้วยภาษาของตนเองได้ ทั้งนี้ การสอบอัตนัย วิชาภาษาไทย ปีการศึกษา 2564 ของนักเรียนชั้น ป.6 มีข้อสอบอัตนัย จำนวน 2 ข้อ คิดเป็น 20 คะแนน ได้แก่ (1) การเขียนเรื่องจากภาพ (10 คะแนน) และ (2) การสรุปใจความสำคัญของบทอ่าน (10 คะแนน)
ผอ.สทศ. กล่าวต่อว่า ในการบริหารการทดสอบ O-NET ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สทศ. ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้เข้าสอบเป็นสำคัญ นอกจากนี้ สทศ. ยังได้ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในการทดสอบทางการศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยขอความร่วมมือให้ผู้เข้าสอบ บุคลากรประจำสนามสอบและผู้ที่อยู่ในบริเวณสนามสอบดำเนินการตามมาตรการป้องกันฯอย่างเคร่งครัด เช่น ทำความสะอาดสนามสอบ มีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย จัดห้องสอบโดยเว้นระยะห่าง Social Distancing เป็นต้น
ทั้งนี้ สทศ. กำหนดประกาศผลสอบ O-NET ชั้น ป. 6 วันที่ 24 มีนาคม 2565 ทางเว็บไซต์ www.niets.or.th เพื่อให้นักเรียน โรงเรียน และต้นสังกัดได้นำผลการทดสอบ O-NET ไปวางแผนการจัดการศึกษา ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน รวมทั้งยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ ดร.พิเชษฐ์ ผอ.สพป.กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสอบ O-NET ของเขตพื้นที่ กทม. มีโรงเรียนที่ร่วมสอบครั้งนี้ จำนวน 45 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียนในสังกัด สพป.กทม. 34 โรงเรียน มีผู้เข้าสอบ 2,304 คน, สังกัด อว.9 มีนักเรียนสอบ 954 คน ,โรงเรียนสังกัดสำนักบริหารการศึกษาพิเศษ(สกศ.) 2 โรงเรียน มีนักเรียนเข้าสอบ 70 คน รวมจำนวนนักเรียนที่มีสิทธิ์สอบทั้งสิ้น 3,372 คน โดยมี 31 สนามสอบ มีศูนย์ประสารการสอบ 5 ศูนย์
ส่วน ดร.พีรานุช ไชยพิเดช ผู้อำนวยการโรงเรียนพญาไท กล่าวว่า ทางโรงเรียนพญาไท ได้ดำเนินการจัดสอบตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยโรงเรียนพญาไท มีนักเรียนชั้น ป.6 จำนวน 194 คน มีนักเรียนที่แจ้งความประสงค์จะเข้าสอบ O-NET จำนวน 192 คน มาสอบจริง จำนวน 157 คน โดยทางโรงเรียนได้จัดห้องสอบละ 25 คน จัดสอบทั้งหมดจำนวน 9 ห้อง และ 1 ห้อง จัดให้นักเรียนจำนวน 10 คน ที่มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 เพื่อเป็นการป้องกัน โดยทางโรงเรียนได้เตรียมดินสอ ยางลบใส่ถุงพลาสติกให้นักเรียนนำเข้าห้องสอบ และห้ามนำโทรศัพย์มือถือ และนาฬิกาดิจิทัลเข้าห้องสอบ ให้สวมแมทตลอดเวลา
- 009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี