หนีตำรวจเพราะยาบ้า 9 เม็ด ตรวจสอบย้อนหลัง มีหมายจับอื้อ ฉ้อโกงประชาชน อ้างรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 แสน/อังคณา เชียงราย
วันที่ 12 ก.พ.65 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.,พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., ชุดปฏิบัติการที่ 3 ศปอส.ตร. นำโดย พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 หน.ชป.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.9 บก.รน.รรท.ผกก.4 บก.ปคม.นำชุดสืบสวนชป.3 ศปอส.ตร.และ กก.4 บก.ปคม., สืบสวน สภ.เทิง,กก.สส.ภ.จว.เชียงราย,บก.ปทส., ตำรวจน้ำเชียงแสนและตม.เชียงราย ร่วมกันออกตรวจสอบรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ สตราด้า สีดำ ทะเบียน กธ 815 เชียงราย ภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าอาจมีสิ่งของผิดกฏหมายหรือยาเสพติด ซึ่งเดินทางออกมาจาก ต.บุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ผ่าน อ.เชียงคำ มุ่งหน้าเข้าสู่ พื้นที่ อ.เทิง หรือ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
เจ้าหน้าที่จึงได้ออกตรวจสอบตามเส้นทางต่างๆ ระหว่าง ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด เขตติดต่อ ต.ปล้อง อ.เทิง เมื่อตรวจสอบมาถึงทางเข้าสู่ ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย - ต.งิ้ว อ.เทิง พบรถยนต์คันดังกล่าว ขับขี่มาตามถนน เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ 401 บก.ปคม.ได้ส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อขอทำการตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและวิทยุสกัดจับรถคันดังกล่าวจนถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้บริเวณถนน ภายในหมู่บ้าน บ้านตุ้มเหนือ ม.8 ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย
ตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบผู้ขับขี่เป็นชายและผู้โดยสารเป็นหญิงรวม 2 คนจึงได้ควบคุมตัวบุคคลทั้งสองมาตรวจสอบพบมีนายอรุณวงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปีชาว อ.เทิง จ.เชียงราย เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวตรวจค้นในตัวและในรถไม่พบสิ่งของผิดกฏหมาย
จากการตรวจสอบบุคคลผู้ที่โดยสารมากับรถเป็นหญิงทราบชื่อว่า น.ส.เสาวลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อยู่หมู่ 15 ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ผลการตรวจค้นพบของกลาง เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าจำนวน 9 เม็ดอยู่ในมือขวาของนางเสาวลักษณ์ โดย น.ส.เสาลักษณ์ สารภาพว่ายาบ้าที่พบนั้นเป็นของตนเองจริง ซึ่งซื้อมาจาก อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เพื่อนำมาเสพแต่เมื่อพบเห็นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจตกใจจึงได้บอกให้คนขับรถขับหลบหนี ซึ่งยาบ้าดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคนขับแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำประวัติของบุคคลทั้งสองเข้าตรวจสอบในระบบติดตามหมายจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติปรากฏว่า นางเสาวลักษณ์ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับของ ศาล จ.อุตรดิตถ์ ที่ 176/2564 ลง 18 ธ.ค.2564 และหมายจับศาล จ.จันทบุรี ที่ 297/64 ลง 7 ธ.ค.2564, หมายจับศาล จ.จันทบุรี ที่ 301/64 ลง 15 ธ.ค.2564 รวมทั้งสิ้น 3 หมายจับในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, หลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ บิด เบือน ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ
สอบถามนางเสาวลักษณ์ ให้การว่าตน ได้ขายบัญชีธนาคารไปให้กับ น.ส.ไก่ เพื่อนสนิทบ้านเดียวกันไปจำนวน 3 บัญชีพร้อม ATM ในราคา 10,000 บาทโดยไม่ทราบว่า น.ส.ไก่ จะเอาไปทำอะไร ต่อมาทราบว่ามีขบวนการหลอกลวงขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในราคาถูก ราคา ตั้งแต่ 5000-10,000 บาท จัดส่งทั่วไทย แต่ผู้ซื้อต้องแจ้งชื่อที่อยู่และโอนเงินมัดจำคันละ 1000-2000 บาท และมีการโอนเงินผ่านบัญชี นางเสาวลักษณ์ จนมีผู้หลงชื่อโอนเงินไปเป็นจำนวนมากรวม 3 บัญชี ยอดเงินความเสียหายประมาณ 180,000 บาท นางเสาวลักษณ์ จึงได้หลบหนีออกจากบ้านที่ ต.นางแล และมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านทุ่งหลวง ต.บุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา และถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ ในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย พร้อมยาเสพติดจำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้ นางเสาวลักษณ์ รับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับทั้ง 3 หมายจริง ซึ่งไม่เคยถูกจับกุมตามหมายนี้มาก่อน และรับสารภาพว่ายาบ้า 9 เม็ดดังกล่าวเป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าเป็น ความผิดฐาน " มียาเสพติดให้โทษประเภท1เมทเเอมเฟตามีนหรือ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยได้รับอนุญาต" ควบคุมตัวนำส่ง สภ.เทิง จ.เชียงราย ดำเนินคดีตามกฏหมาย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี