2 มีนาคม 2565 ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาที่ผ่านรัฐให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อยู่ในความครบคุมของภาครัฐโดยเฉพาะกรมการค้าภายใน ซึ่งขณะนั้นราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็พุ่งอยู่แล้ว แต่มายังตอนนี้ มาเจอสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ที่ได้เปิดศึกกัน มีผลอย่างยิ่งต่อราคาธัญพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตอาหารสัตว์
เนื่องจากรัสเซียและยูเครนเป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพดสำหรับข้าวสาลีนำเข้า ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ ราคาปรับสูงขึ้นจาก 8-9 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อปี 2564 เพิ่มเป็น 12 บาทต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน ขณะที่ข้าวโพดในประเทศไทย ราคาปรับไปถึง 11.10 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ราคาขึ้นมาสูงกว่า 50-60% แล้ว ยังไม่นับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะสูงขึ้นทำให้ต้นทุนค่าขนส่งปรับเพิ่มด้วย
ดร.ฉวีวรรณ กล่าวอีกว่าทางสมาคมและผู้ประกอบยัง เคยแนะแนวทางแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูง โดยรัฐบาลควรลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ทั้งกากถั่ว ข้าวโพด และวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ แต่รัฐบาลยังนิ่งเฉย ดังนั้น สิ่งที่ขอฝากไปยังรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์คือ การแก้ไขปัญหาเรื่องต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ อย่างจริงจังและเป็นรูปประธรรม เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรก็พูดมาตลอดว่าแบกรับต้นทุนมาตลอด
ซึ่งตนเป็นนายกนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์มา 20 ปีแล้ว แต่อยู่กับสมาคม เกือบ 30 ปี พบเห็นการบริหารประเทศมาหลายรัฐบาลแต่พอมาเจอรัฐบาลนี้ ไม่ดูแล และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ถ้ารัฐไม่สามารถควบคุมราคาวัตถุดิบจากผลกระทบของสถานการณ์ยูเครน ก็ควรปล่อยให้ราคาไก่และไก่ไข่เป็นไปตามกลไกที่ควรจะเป็น”
ทั้งนี้ ประเทศรัสเซียและยูเครน มีปริมาณการส่งออกข้าวสาลีรวมกันประมาณ 29% ของปริมาณการส่งออกทั่วโลก ส่วนข้าวโพด 19% ของตลาดโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี