คนไทยชุดที่ 3 กลับถึงไทยแล้ว สาวเล่าสถานการณ์ในกรุงเคียฟทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเช้ามืดจะได้ยินเสียงระเบิดดังต่อเนื่องและเริ่มดังใกล้เข้ามาจนรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงในบ้านพักจนต้องตัดสินใจขออพยพกลับประเทศ แฉนาทีหนีตายจากยูเครนเบียดเสียดขึ้นรถไฟ บางส่วนต้องยืนขาแข็งถึง 9 ชั่วโมง เผยสาวไทยถูกโจรกรรมพาสปอร์ต ส่วนวันเสาร์นี้เป็นล็อต 4 เผยอีก 31 คนแสดงความประสงค์จะอยู่ต่อ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 มีนาคม 2565 ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันต้อนรับแรงงานไทยในยูเครน จำนวน 40 คน ที่อพยพเดินทางกลับมาจากยูเครนด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384 ถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 12.05 น. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ซึ่งแรงงานไทยชุดนี้ถือเป็นแรงงานไทยชุดที่ 3 ที่ได้รับการช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ อพยพคนไทยในยูเครนกลับไทยโดยสวัสดิภาพ ซึ่งเดินทางกลับถึงประเทศแล้วรวม 136 คน
น.ส.สุภานันท์ ทองอินทร์ ชาวจังหวัดปราจีนบุรี แรงงานไทยในยูเครน ได้เล่าเหตุการณ์ในเมืองหลวงเคียฟของยูเครนว่า ขณะที่ตนและเพื่อนซึ่งไปทำงานสปาอยู่ที่เมืองเคียฟนั้น ช่วงวันสองวันแรกก็ยังไม่รุนแรงเท่าไหร่และยังไม่มีแผนที่จะต้องอพยพ จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเช้ามืดจะได้ยินเสียงระเบิดดังต่อเนื่องและเริ่มดังใกล้เข้ามาจนรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงในบ้านพักจนต้องตัดสินใจขออพยพออกมาจากเมืองเคียฟเพื่อขอกลับประเทศไทย
"การเดินทางต้องใช้รถไฟออกจากเมืองเคียฟมายังสนามบินซึ่งอยู่ที่เมืองลวิฟ คนแย่งกันขึ้นรถไฟ เบียดกันมาก โดนเบียดหลายรอบเกือบจะขึ้นกันไม่ทัน เพราะพวกเรามากัน 4 คนจากสถานีวอชซานาถึงลวิฟเราเดินทางกัน 9 ชั่วโมง แต่โชคดีที่พวกเราได้นั่ง บางคนไม่มีที่นั่ง 9 ชั่วโมง พวกเราตื่นเต้นด้วย กลัวด้วย กลัวว่าจะไปรอดไหม เพราะคนเยอะมากที่สถานีรถไฟ กลัวว่าจะไปรอดไหม จนได้ขึ้นเครื่องบินและกลับมาถึงยังประเทศไทย ซึ่งรู้สึกโล่งและดีใจมากที่กลับมาถึงบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ยังมีแรงงานไทยอีกหลาย ๆ คนที่ได้เดินทางกลับมาในครั้งนี้ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าน่ากลัวมาก ส่วนหลังเหตุการณ์สงบลงแล้วจะกลับไปทำงานอีกหรือไม่นั้น ต้องรอถามเจ้านายอีกทีว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร "น.ส.สุภานันท์ กล่าว
ด้าน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า การเดินทางกลับมาของแรงงานไทยในยูเคนในครั้งนี้พบว่า มีอุปสรรคบ้าง โดยมีแรงานไทยซึ่งเป็นผู้หญิงรายหนึ่งถูกโจรกรรมพาสปอร์ตในระหว่างอพยพ แต่ก็มีเอกสารชั่วคราวทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองต้องมีการใช้เวลาในการตรวจสอบเล็กน้อยในการตรวจสอบเอกสารแต่ทุกอยางก็เรียบร้อย ซึ่งตนเห็นว่าเวลาผ่านไปนานก็เลยขอเดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าติดขัดตรงไหนก็เลยได้ทราบอย่างประเด็นที่ได้กล่าวไปแล้ว
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในไฟล์ทนี้ EK 384 เป็นไฟล์ทที่ 3 ที่มีการพาคนไทยจากยูเครนกลับสู่ประเทศไทย การปฏิบัติในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในวันนี้จำนวน 40 คน ซึ่งผ่านการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขตามขั้นตอนเรียบร้อยทุกคน ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งไปที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อรอฟังผลการตรวจในครั้งนี้ ก็ต้องบอกว่าทุกการปฏิบัติของหน่วยราชการมีการประสานการปฏิบัติกันอย่างดี ส่วนคนไทยในยูเครนที่ยังเหลือตกค้างอยู่ที่ดูไบ ในขณะนี้เท่าที่ได้รับการประสานงาน จะเดินทางเข้ามาอีกครั้งในวันที่ 5 มีนาคมนี้ จำนวน 2 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินของสายการบินไทย น่าจะไม่เกิน 20 คน และเที่ยวบินของเอมิเรตต์น่าจะอยู่ที่ 45 คน แต่ตัวเลขอาจจะมีการปรับเพิ่มได้ก็ต้องดูในวันที่จะถึงอีกที
ด้าน นายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า กลุ่มคนไทยชุดนี้มาจากกรุงเคียฟ มี 25 คน ที่เป็นกลุ่มแรงงานที่มีนายจ้างดูแลและช่วยเหลือในการอพยพ ทำให้การช่วยเหลือนั้นค่อนข้างสะดวก ส่วนที่เหลืออีก15 คนอพยพด้วยตัวเองไปยังศูนย์ปฏิบัติการฯที่เมืองลวิฟก่อนเดินทางไปยังวอร์ซอ
"วันเสาร์ที่ 5 มีนาคมนี้ยังมีคนไทยอีก 45 คนที่เดินทางจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครนซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองลวิฟ เข้าประเทศโปแลนด์ โดยจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในเวลาประมาณ 6.50 น. รวมถึงคนไทยอีก 16 คน ที่เดินทางเข้าประเทศโรมาเนีย โดยจะกลับถึงประเทศไทยในเวลาประมาณ 12.05 น. ส่วนคนไทยที่เหลือ แบ่งเป็น 12 คนที่เข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ และอยู่ระหว่างเดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการฯ ก่อนเดินทางเข้าประเทศโปแลนด์ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 และเตรียมเดินทางกลับไทยต่อไป” รองอธิบดีกรมการกงสุล กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คนไทยจำนวน 31 คน ที่แสดงความประสงค์จะอยู่ต่อ โดยเฉพาะคนไทยที่มีครอบครัวในยูเครน และอีก 8 คน ประกอบด้วย 1 คนในเมืองเซเบโรโดเนส และ 7 คนในเมืองมิโคลาอีฟ ที่ยังไม่สามารถเดินทางออกมาได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีหากสถานการณ์ปลอดภัย ซึ่งขณะนี้คนไทยกลุ่มนี่ทุกคนยังปลอดภัย และยังมีการประสานงานกับคนไทยที่อยู่ในยูเครนทุกคน
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี