"รัฐบาล" ยันช่วยเหลือประชาชนกระทบภัยแล้งปีนี้น้อยที่สุด พร้อมทั้งสั่งปรับเร่งเตรียมมาตรการรับมือฤดู ฝนปี 65 เร็วขึ้น ลดผลกระทบให้มากที่สุด
11 มี.ค.65 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการอำนวย การด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบ VTC ณ ห้องประชุมมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อติดตามผลดำเนินงานตามมาตรการฤดูแล้งและมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 โดยที่ประชุมรับทราบ ภาพรวมการคาดการณ์ปริมาณฝน มี.ค.- เม.ย.65 มากกว่าปกติ มีแหล่งน้ำขนาด ใหญ่ต้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำน้อย 5 แห่ง
สำหรับความก้าวหน้าของ 9 มาตรการรับรองสถานการณ์ขาดแคลน น้ำฤดูแล้ง ปี 64/65 การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงภาวะน้ำแล้ง ทั้งด้านการอุปโภค- บริโภค ด้านการเกษตร และด้านคุณภาพน้ำ ยังสามารถควบคุมได้ตามแผนงานและเป็นไปตามเป้าหมาย ที่มุ่ง จัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อการเกษตร การอุปโภค- บริโภค และการควบคุมคุณภาพน้ำ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 ซึ่ง สทนช.ได้ ประชุมถอดบทเรียนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 64 จากหน่วยงานต่างๆ และร่วมกำหนด 13 มาตรการ รับมือ ประกอบด้วย การคาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม การบริหารจัดการพื้นที่ลุ่มต่ำ การปรับปรุง เกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดต่างๆ การซ่อมแซมปรับปรุงระบบระบายน้ำ การแก้ปัญหาสิ่ง กีดขวางทางน้ำ การขุดลอกคูคลอง การเตรียมพร้อมประจำพื้นที่เสี่ยง การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและ การส่งน้ำ การตรวจความมั่นคงปลอดภัยผนังกั้นน้ำ การซักซ้อมพื้นที่อพยพและแผนเผชิญเหตุ การตั้งศูนย์ ส่วนหน้าก่อนเกิดภัย การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการติดตามประเมินผล เพื่อปรับการ บริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมสูงสุด
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบ ปฏิทินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ แบ่งเป็น 2 ฤดู คือ ฤดูแล้ง(1 พ.ย.- 30 เม.ย.) และ ฤดูฝน(1 พ.ค. - 31 ต.ค.) และเห็นชอบแนวทางการกำจัดผักตบชวา ด้วยจุลินทรีย์ ชีวภาพโดยการใช้สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติจากผลการวิจัย เพื่อลดความเสียหายจากปัญหาผักตบ ชวาในฤดูน้ำหลาก
"พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความพอใจการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งภาพรวมที่ผ่านมา และขอบคุณ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถจัดสรรน้ำได้อย่างเพียงพอต่อการเพาะปลูกของเกษตรกร และยัง ไม่พบสถานการณ์ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในปัจจุบัน พร้อมทั้งย้ำ สทนช.ให้การช่วยเหลือต่อเนื่อง ให้ ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยแล้งน้อยที่สุด ทั้งนี้ขอให้ความสำคัญในการดูแลคุณภาพน้ำ การลดความ สูญเสียน้ำและขยายผลกักเก็บน้ำบนและเติมน้ำใต้ดินไปพร้อมกัน"
ทั้งนี้ ขอให้ให้พิจารณาความเร่งด่วนในการบริหารจัดการประตูน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำ บางปะกงและแม่น้ำท่าจีน เพื่อแก้ปัญหาน้ำเค็ม จากผลกระทบน้ำทะเลหนุนสูง นอกจากนี้ยังได้ย้ำสั่งการ มท.ต้องเร่งขยายผลให้ทุกหมู่บ้านมีและสามารถใช้น้ำประปาได้ในทุกหมู่บ้าน และขอให้ กษ. พิจารณา สนับสนุนและทำความเข้าใจกับเกษตรการในการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยในฤดูแล้ง เพื่อให้สามารถบริหาร จัดการผลิตผลการเกษตรได้ต่อเนื่องตลอดปี
สำหรับฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ ขอให้ทุกหน่วยงาน แข็งขันและเร่งเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนที่กำหนด ให้เร็วขึ้น โดยให้ สทนช. ติดตามขับเคลื่อนรับมือตาม 13 มาตรการที่กำหนดให้เป็นรูปธรรมร่วมกันในทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ต้องเร่งป้องกันและแก้ปัญหาจากบทเรียนที่ผ่านมา ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งให้ความสำคัญกับแผนเตือนภัยและการอพยพเคลื่อนย้าย เพื่อลดการสูญเสียและความเสียหายในพื้นที่เสี่ยงให้ได้มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี