‘ประแสร์-วังประดู่’ระยองถึงจันทบุรี  โครงการบริหารจัดการนํ้าภาคตะวันออก

‘ประแสร์-วังประดู่’ระยองถึงจันทบุรี โครงการบริหารจัดการนํ้าภาคตะวันออก

วันจันทร์ ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :

“ภาคตะวันออก” พื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจลำดับต้นๆ ของไทย ด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ตั้งแต่ Eastern Seaboard ในชลบุรีและระยอง ที่เริ่มต้นในปี 2525 มาจนถึง EEC ที่ถูกเรียกว่าเป็นโครงการระยะที่ 2 โดยเพิ่มฉะเชิงเทราเข้ามาอีกจังหวัดหนึ่งขณะเดียวกัน จังหวัดอย่างชลบุรีและระยอง ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อีกด้านหนึ่ง ก็ยังมีภาคเกษตรกรรมที่ยังดำรงอยู่ “การบริหารจัดการน้ำ” จึงจำเป็นอย่างมากเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย

เมื่อเร็วๆ นี้ คณะสื่อมวลชน เดินทางไปพร้อมกับคณะทำงานของกรมชลประทาน เพื่อศึกษาดูงาน “โครงการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก (วังโตนด-ประแสร์-หนองปลาไหล-บางพระ)” ใน 2 พื้นที่ คือ 1.อ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง และ 2.สถานีสูบน้ำบ้านวังประดู่ จ.จันทบุรี โดย เฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน กล่าวว่าอ่างเก็บน้ำประแสร์ เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพและเป็นต้นแบบการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร โดยการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการพัฒนาโครงการ


เพื่อให้สอดรับความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วน รวมถึงการจัดแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่ม เพื่อสร้างความมั่นคงให้เพียงพอ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อปี 2548 ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น และสามารถถอดบทเรียนมาวางแผนการพัฒนาได้ทั้งระบบ ทั้งนี้พบว่า จ.ระยอง สภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศจะมีปริมาณน้ำฝนที่น้อยในช่วงฤดูฝน เมื่อเทียบ จ.จันทบุรีและตราด

จึงได้ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2552 มีมติให้ดำเนินโครงการผันน้ำจากพื้นที่ จ.จันทบุรี ป้อนน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง เพื่อรองรับกิจกรรมการใช้น้ำในภาคต่างๆ ทั้งอุปโภค บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการบริหารจัดน้ำโดยการผันน้ำส่วนเกินมาสนับสนุนสร้างน้ำต้นทุน จ.ระยอง ให้เพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันจะต้องรักษาระบบนิเวศด้วย

ด้าน เกรียงศักดิ์ พุ่มนาค ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษาสำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวว่า ความคืบหน้าแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อการผันน้ำจากพื้นที่ จ.จันทบุรี ไปสู่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง สามารถดำเนินการโดยผันน้ำส่วนเกิน จากอ่างเก็บน้ำที่กรมชลฯ ซึ่งปัจจุบันมีแผนพัฒนาขึ้น 4 แห่ง ได้แก่ 1.อ่างเก็บน้ำคลองประแกด เป็นอ่างแห่งแรกที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทำให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้มีแหล่งเก็บกักน้ำ และใช้ในฤดูแล้งที่มักมีปัญหาขาดแคลนน้ำ ซึ่งเคยเกิดขึ้นและสร้างความเสียหายรุนแรงเมื่อปี 2535

โดยมีความจุ 60.26 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยสร้างความมั่นคงให้พื้นที่การเกษตรได้ถึง 46,000 ไร่ 2.อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง และมีกำหนดการแล้วเสร็จพร้อมเริ่มกักเก็บน้ำได้ในปี 2565 โดยเมื่อแล้วเสร็จจะเก็บกักน้ำได้ 80.70 ล้าน ลบ.ม. ใช้สำหรับการเกษตร และอุปโภค-บริโภคให้กับประชาชนในเขตพื้นที่โครงการ ประมาณ 1,600 ครัวเรือน สามารถส่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน 62,000 ไร่ และสามารถจัดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกฤดูแล้งได้ 14,000 ไร่

3.อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งช่วยส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก ช่วงฤดูฝนได้ 54,000 ไร่ และ ส่งน้ำผ่านระบบชลประทานช่วงหน้าแล้งได้ 21,600 ไร่ และส่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคปริมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในเขตอำเภอแก่งหางแมว จ.จันทบุรีและการอุตสาหกรรม รวมถึงยังสามารถส่งเสริมเป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง

ส่วน “โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด” เป็นอ่างเก็บน้ำที่ 4 ที่อยู่ระหว่าง การขอใช้พื้นที่เพื่อการก่อสร้าง หลังจากการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ ทำให้มีขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำ ทั้งระบบที่ไหลจากเทือกเขาใน อ.แก่งหางแมว ไหลผ่าน อ.นายายอาม และประตูระบายน้ำวังโตนด ที่มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 1,839.1 ตร.กม. และยังมีปริมาณน้ำที่ไหลลงทะเลมากกว่าปีละ 1,000 ล้าน ลบ.ม. ทำให้มีปริมาณน้ำมีเพียงพอในการกักเก็บเพื่อใช้ในการอุปโภค-บริโภคในจันทบุรี

รวมถึงการผันน้ำไปยัง จ.ระยอง ซึ่งอยู่ในระหว่างการขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีความจุรวม 308.56 ล้าน ลบ.ม. สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์ทั้งสิ้น 267,800 ไร่ เพื่อรองรับความต้องการน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาได้อีกปีละ 45 ล้าน ลบ.ม. และผันน้ำส่วนเกินไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้ถึงปีละประมาณ70 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งนอกจากจะเป็นเสริมแหล่งน้ำต้นทุนแล้วยังสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกสวนผลไม้ใน จ.ระยอง และแหล่งน้ำดิบสำรองที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมในเขต จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี

เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวมีการวางระบบท่อผันน้ำพร้อมอาคารประกอบจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง โดยมีการตั้งสถานีสูบน้ำพร้อมเครื่องสูบน้ำ อยู่บริเวณคลองวังโตนด บ้านวังประดู่ ต.สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมวมี ใช้เครื่องสูบน้ำชนิด Horizontal Split Case สามารถสูบน้ำได้ รวม 5 ลบ.ม. ต่อวินาที จำนวน 9 เครื่อง พร้อมโครงข่ายระบบท่อส่งน้ำ โดยแนวท่อส่งน้ำขนาด 1.80 ม. วางขนานไปตามทางถนนมีความยาวรวมทั้งสิ้น45.7 กิโลเมตร เพื่อป้อนอ่างเก็บน้ำประแสร์ รองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top