นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ระบบการป้องกันและเฝ้าระวังโรคอหิวาต์ในสุกร หรือ ASF ของประเทศไทย ดีที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยสามารถป้องกันโรคได้นาน นับตั้งแต่ปี 2561 ที่พบการระบาดเกิดโรค ASF ในสุกรครั้งแรกในประเทศจีน มีการเตรียมความพร้อมรับมือต่อโรคมาโดยตลอด โดยสั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรค การซ้อมแผนเตรียมความพร้อมรับมือ จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค ASF ในสุกร และแนวทางเวชปฏิบัติของโรค ASF ในสุกร เผยแพร่ในเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์
นอกจากนี้ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเข้มการลักลอบนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการส่งออก ลดความเสี่ยงจากการส่งออกสุกร โดยห้ามรถขนส่งสุกรมีชีวิตเข้าไปส่งสุกรในประเทศที่มีการระบาด ให้ใช้รถขนถ่ายข้ามแดนในการส่งสุกรไปยังประเทศปลายทางแทน และต้องมีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค การบูรณาการความร่วมมือร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ในการจัดประชุมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน (ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม) ในการป้องกันโรค การทำงานบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน
สำหรับประเด็นราคาสุกรที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น เมื่อเทียบราคากับประเทศจีน ช่วงที่มีการระบาดของโรคดังกล่าว พบว่าประเทศไทยยังมีราคาที่ถูกกว่า โดยในปี 2563 จีนมีราคาสุกรหน้าฟาร์ม ประมาณ 36 หยวน หรือ 180 บาทต่อกิโลกรัม จะเป็นราคาเนื้อแดง ประมาณ 360 บาท โดยปัญหาราคาเนื้อสุกรแพงนั้นมาจากหลายปัจจัย และเนื่องด้วยการกักตุนเนื้อสุกรในห้องเย็น ซึ่งจากการตรวจสอบห้องเย็นที่เข้มงวด ทำให้ห้องเย็นมีการเข้มงวดในการรับฝากสินค้ามากขึ้น มีการนำเนื้อสุกรมาจำหน่ายทำให้ราคาเป็นตามกลไกตลาด ส่งผลให้ปัจจุบันราคาเนื้อสุกรปรับลดลงแล้ว นอกจากนี้จากการดำเนินงานอย่างเข้มงวดในการควบคุมป้องกันโรคและควบคุมการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวดทำให้สามารถควบคุมโรคได้ในวงจำกัด
ส่วนการตรวจพบเชื้อ ASF ในเนื้อสุกรที่ส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา ในปี 2564 โดยสถาบันวิจัยด้านสุขภาพสัตว์และปศุสัตว์กัมพูชายืนยันตรวจพบเชื้อ ASF จากการตรวจ 2 รอบ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 และวันที่ 8 ตุลาคม 2564 นั้น ตามประกาศของกระทรวงเกษตรฯ ป่าไม้และประมง กรมสุขภาพสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แจ้งว่ามีการจับกุมการกระทำความผิด 2 กรณีเป็นการลักลอบเคลื่อนย้ายสุกร ไม่มีเอกสารใดๆ ซึ่งกองเฉพาะกิจ กรมปศุสัตว์ได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สกัดการลักลอบ 24 ชั่วโมง จากเนื้อข่าวที่ปรากฏ จะต้องมียานพาหนะเป็นองค์ประกอบในการเคลื่อนย้ายสัตว์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะลักลอบกระทำความผิดดังกล่าว และพื้นที่ที่ปรากฏเป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก ห้ามบุคคลรวมถึงยานพาหนะทุกชนิดเข้า-ออกตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. หากฝ่าฝืนจะมีโทษสถานหนัก