ตร.แจ้งข้อหาเพิ่ม 7 รุ่นพี่รับน้องโหด พ่อปฏิเสธเงิน 5 แสน-ขอชีวิตลูกคืน
ความคืบหน้ากรณีนายพัสยศ ชลภักดี หรือ “น้องเปรม” อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้องใหม่ที่แอบจัดนอกสถานที่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (18 มีนาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ หลังจากตำรวจได้แจ้งข้อหารุ่นพี่ 7 คน ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ล่าสุดได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่รุ่นพี่ทั้ง 7 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมีรุ่นน้อง 2 คน ได้รับบาดเจ็บจากการรับน้อง ส่วนกลุ่มรุ่นพี่รวมทั้งหมด 25 คน ถูกแจ้งข้อหาทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งกลุ่มรุ่นน้องชายแก้ผ้าเปลือยกายล่อนจ้อน และความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มรุ่นพี่ ชั้นปี 2 ทั้งหมด 25 คน ฐานความผิดทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งให้รุ่นน้องถอดเสื้อผ้า เปลือยกายล่อนจ้อนขณะทำกิจกรรมรับน้อง ซึ่งความผิดดังกล่าวรุ่นพี่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน และกำลังพิจารณาความผิดอื่นๆอีกเพื่อให้การดำเนินคดีครอบคลุมทุกประเด็น
ด้าน พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา (ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา) สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการทำสำนวนคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมประสานผู้ปกครองนักศึกษารุ่นพี่ทั้ง 7 คน และเจรจาการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว “น้องเปรม” ผู้เสียชีวิต ขณะที่ผู้ปกครองรุ่นพี่คนอื่นๆ พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยาตามความเหมาะสม
ด้านนายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี พ่อของ “น้องเปรม” กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้พูดคุยกับผู้ปกครองของรุ่นพี่ 7 คน โดยผู้ปกครองของรุ่นพี่ทั้ง 7 คนได้เสนอให้เงินเยียวยา 5 แสนบาท แต่ตนได้ปฏิเสธไป พร้อมกับถามกลับไปว่าขอชีวิตลูกคืนได้หรือไม่ ซึ่งทุกคนก็ให้คำตอบไม่ได้ โดยในชั้นนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และขอยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากลูกชายเสียชีวิต ตนและภรรยาต้องนอนร้องไห้ทุกคืน เพราะยังคงทำใจไม่ได้
นายเอกชัย ระบุว่า วันนี้ตนจะเดินทางไปรับศพของ “น้องเปรม” ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งทีแรกตนตั้งใจจะพาน้องเปรมกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ระยะทางไกล ตนจึงเปลี่ยนแผนนำศพน้องกลับมาฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม นี้ ซึ่งผลการผ่าชันสูตรศพของน้องเปรมพบว่า ลิ้นปี่ด้านขวาบอบช้ำรุนแรง และปอดมีรอยช้ำ ตอนนี้ตนยังไม่เชื่อว่า รุ่นพี่ที่ทำร้ายน้องเปรมมีแค่ 7 คน เพราะน่าจะมีมากกว่านั้น
ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เตรียมประชุมหาข้อสรุปบทลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ ปวส.ชั้นปีที่ 2 จำนวนทั้ง 25 คน ที่แอบจัดกิจกรรมรับน้องจนเป็นเหตุทำให้รุ่นน้องถูกทำร้ายเสียชีวิต ในวันที่ 19 มีนาคม นี้ โดยมี ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งจะพิจารณาลงโทษตามระดับความผิดของรุ่นพี่แต่ละคน มีบทลงโทษตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุด คือ ไล่ออก
ผศ.สุรพจน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัย มีนโยบายงดจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ รวมถึงกิจกรรมทุกอย่างที่ไม่เหมาะสม ทั้งใน และนอกมหาวิทยาลัย พร้อมติดตั้งป้ายรณรงค์ และบทลงโทษ หากพบมีบุคคลฝ่าฝืนจัดกิจกรรม รวมถึงจัดตั้งศูนย์ป้องปราบการรับน้องใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก
วันเดียวกัน ที่บ้านโนนมะกอก หมู่ 14 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 , พ.ต.อ คเชนทร์ เสตะปุตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา , พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ , ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และนายสรวิศ ต.ศิริวัฒนา ผู้ช่วยอธิการบดี มทร.อีสาน ร่วมให้การต้อนรับและชี้แจงความคืบหน้าการคลี่คลายคดี และการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว “น้องเปรม”
ทั้งนี้ ได้นำนักศึกษารุ่นน้อง 5 คน มาบอกกล่าวโดยลำดับเหตุการณ์นักศึกษารุ่นพี่นัดให้มาทำกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.30 น. จากนั้นได้ก่อเหตุอะไรบ้าง ท่ามกลางญาติของ “น้องเปรม” ได้มามุงดู แต่ไม่มีการส่งเสียงด่าทอหรือแสดงพฤติการณ์ไม่พอใจแต่อย่างใด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ต่อมา พล.ต.ท สมพงษ์ ได้ให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต พร้อมกล่าวขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือเยียวยาให้ดีที่สุด
พล.ต.ท.สมพงษ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แก่รุ่นพี่ 7 คน เนื่องจากทั้ง 7 คนก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ตายโดยตรง และจากนี้หากการสอบสวนพบกลุ่มรุ่นพี่ มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมทันที อาทิ ความผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค และเรื่องการบังคับรุ่นน้องถอดเสื้อผ้า จนสร้างความอับอายต่อธารกำนัล ซึ่งจากการสอบปากคำพบผู้ต้องหา 6 คน ยอมรับสารภาพ ส่วนอีก 1 คน ปฏิเสธ
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุธรรม กล่าวว่า ถ้าคดีการรับน้องที่เกิดขึ้นมีความชัดเจนว่ารุ่นน้องเป็นผู้ถูกกระทำให้เสียชีวิต ก็เป็นหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ กระทรงยุติธรรม ในการเข้าไปทำหน้าที่ดูแลเรื่องเงินเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หากพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯจะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ทันทีภายใน 7 วัน ทั้งนี้เหตุการณ์การรับน้องรุนแรงที่เกิดขึ้นถึงแม้จะเป็นการกระทำนอกสถานที่ และไม่ได้ทำในสถานศึกษา แต่ครูอาจารย์ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย และต้องดำเนินการหาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี