22 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา นายพิทพิรุณ พิรภพ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ ที่ขโมยรถยนต์ และปืนลูกซองยาวของทางราชการ ไปก่อเหตุยิงถล่มรถยนต์ และบ้านอดีตภรรยา ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 มี.ค.65 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นายณัฐพงษ์ อานไธสง อายุ 20 ปี ลูกเลี้ยงคนโตของอดีตภรรยา ถูกกระสุนเจาะบริเวณลำคอเสียชีวิคาบ้าน
ส่วนอดีตภรรยา แฟนใหม่ ลูกเลี้ยงคนเล็ก และอดีตแม่ยายรอดตาย โดยชนวนเหตุเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากเห็นอดีตภรรยาซึ่งขอเลิกรากับนายพิทพิรุณ ได้ประมาณ 1 เดือนเศษอยู่กับแฟนใหม่ที่บ้าน และหลบหนีหลังก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่าติดตามตัวอย่างต่อเนื่องมา 8 วัน ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่พบผู้ก่อเหตุผูกคอเสียชีวิตในป่านั้น
คืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบภูธร จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ สภ.ปะคำ พนักสอบสวน สภ.โนนดินแดง และแพทย์เวรฯ รพ.โนนดินแดง ได้เข้าตรวจสอบสภาพศพ นายพิทพิรุณ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ผู้ต้องหา ที่ขโมยปืนหลวงจากหน่วยไปก่อเหตุยิงถล่มบ้านเมียเก่ากระสุนถูกลูกเลี้ยงเสียชีวิต หลังเจ้าชุดลาดตระเวนพิทักษ์ป่า เดินลาดตระเวนแล้วไปพบศพ นายพิทพิรุณ ผูกคอเสียชีวิตกับต้นสุรามีฤทธิ์ หรือชาวบ้านเรียกว่าต้นเชียด บริเวณลำธารในเขตป่าละเลิงร้อยรู สูงจากพื้นประมาณ 10 กว่าเมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุแต่ไม่พบตัว เนื่องจากป่าร้อยรูมีบริเวณกว้าง
จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย แต่สภาพศพเน่าอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ซึ่งคาดว่าน่าจะผูกคอเสียชีวิตเองเพื่อหนีความผิด ตรวจสอบบริเวณโคนต้นไม้ที่นายพิทพิรุณ ผู้ต้องหาผูกคอตาย พบปืนลูกซองยาวของกลางของหลวงที่ขโมยมาก่อเหตุวางอยู่ ตรวจสอบพบกระสุนในรังเพิง 4 นัด ในกระเป๋าเสื้อแขนยาวที่กองเอาไว้อีก 11 นัด รวมเป็น 16 นัด ทั้งนี้ยังพบกระเป๋าเป้สำหรับใส่เสื้อผ้าและเสบียง 1 ใบ รองเท้าผ้าใบอีก 1 คู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามนายผาย เชิดรัมย์ หัวหน้าชุดลาดตระเวนพิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ซึ่งเป็นชุดที่มาเจอศพนายพิทพิรุณ และเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกับผู้ตาย เล่าว่า ปกติจะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนอยู่แถว อ.ปะคำ แต่วันนี้ได้รับคำสั่งให้มาสนับสนุนภารกิจลาดตระเวนและค้นหาผู้ต้องหา ในเขตป่าละเลิงร้อยรูเป็นวันแรก จึงได้พาทีมมาร่วมลาดตระเวนรวมทั้งหมด 7 นาย ซึ่งขณะเดินลานตระเวนอยู่ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าอะไรบางอย่าง จึงเดินตรวจดูพบศพคนผูกคอตายที่ลำธารในป่าร้อยรู ห่างจากที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ละเลิงร้อยรูประมาณ 2 - 3 กม. ก็ตกใจ พอตั้งหลักได้ก็พากันเดินไปดูศพใกล้ๆ พบสภาพศพเน่าอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
มั่นใจว่าเป็นศพนายพิทพิรุณแน่นอน เพราะดูจากเสื้อผ้าที่เสื้อที่สวมใส่ อีกทั้งบริเวณโคนต้นไม้พบปืนยาวของทางราชการ ที่ผู้ตายขโมยไปก่อเหตุ เสื้อแขนยาวสีดำที่ผู้ตายสวมใส่ขณะปฏิบัติหน้าที่ กระเป๋าเป้ และรองเท้าผ้าใบวางอยู่ จึงรีบผู้บังคับบัญชาคือ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ทราบ
นายผาย ยังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันรู้สึกเสียใจที่ นายพิทพิรุณ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแทนที่จะเลือกเข้าสู้กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งหากตนพบนายพิทพิรุณ ยังมีชีวิตก่อนหน้านี้ จะเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวสู้คดีตามกระบวนการ ซึ่งตนกับผู้ตายค่อนข้างสนิทสนมกันเพราะนอกจากจะพูดคุยกับเรื่องงานแล้ว ผู้ตายยังเคยระบายเรื่องส่วนตัวให้ฟังบ้าง
ก่อนจะเกิดเหตุ นายพิทพิรุณ เคยบอกตนว่า จะขายที่ดินที่บ้านเกิด จ.อำนาจเจริญ เพื่อมาปักหลักอยู่กินกับอดีตภรรยาคนดังกล่าว แต่ไม่คาดว่าจะมาเกิดเหตุสลดขึ้นก่อน ขอให้ดวงวิญญาณกลับไปอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่เขาเคยทำงานอยู่ ไม่อยากให้มาเร่ร่อนอยู่ในป่าแบบนี้
“ส่วนที่มาช่วยสนับสนุนลาดตระเวนป่าร้อยรูเป็นวันแรกแล้วเจอศพนายพิทพิรุณ คิดว่าวิญญาณของผู้ตายอยากให้เจอเพราะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน” นายผาย กล่าว
ทั้งนี้ ศพของนายพิทพิรุณ เบื้องต้นจะนำไปเก็บไว้ที่ รพ.โนนดินแดง เพื่อชันสูตรศพตามขั้นตอน ก่อนประสานญาติเพื่อรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป. 012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี