กรมการแพทย์-ไฟเซอร์ลงนามจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิด 50,000 คอร์ส ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดอาการรุนแรง สามารถลดความเสี่ยงการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตของผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยงลงได้ถึงร้อยละ 88 คาดถึงไทยต้น เม.ย. ตั้งเป้ากระจายยาก่อนสงกรานต์ ใช้ในคนเสี่ยงอายุ 60 ปีมีโรคร่วม รับวัคซีนไม่ครบ โดย 1 คน ทาน 6 เม็ดติดต่อกัน 5 วัน รวม 30 เม็ด
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 ที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย ตัวแทนบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย)จำกัด ผ่านระบบออนไลน์ ลงนามในสัญญาการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา หรือผู้ป่วย 50,000 คน โดยการทำสัญญาครั้งนี้มีผลทันที
โดยนพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อให้การรักษาผู้ป่วย COVID-19 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) และยาใหม่ที่อยู่ระหว่างการจัดหาและมีการลงนามจัดซื้อกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันนี้ คือ ยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) จากข้อมูลจากการศึกษาวิจัย 1,379 คน ลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ กลุ่มที่ให้ยา Paxlovid นอนโรงพยาบาล ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มยาหลอกมีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต ร้อยละ 6.31 โดยมีผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ได้ยาหลอก 13 คน
ทั้งนี้ ยา Paxlovid เหมาะสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางและมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น คนอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไตเรื้อรัง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ เป็นต้น สำหรับยาแพ็กซ์โลวิด มีประสิทธิผลในการลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์รับผิดชอบสัญญาการจัดหาและจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด 19 ได้เข้าถึงยาต้านไวรัสชนิดใหม่ และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในโรงพยาบาล
สำหรับเกณฑ์การจ่ายยาแพล็กซ์โลวิด เหมือนกับโมลนูพิราเวียร์ คือ ให้กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง คนอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน แต่สำหรับที่ไม่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาการเล็กน้อย ได้รับวัคซีนครบ ก็จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือ ฟ้าทะลายโจรแทน ทั้งนี้ประสิทธิภาพของยาแพล็กซ์โลวิด ออกฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ 3CL-protease ของ เชื้อ SARS-CoV-2 แต่ โมลนูพิราเวียร์กลไกการออกฤทธิ์คล้ายยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งในให้ยา ทั้ง 2 ชนิดนี้ ทั้ง แพล็กซ์โลวิด และ โมลนูพิราเวียร์ จึงไม่ได้แนะนำให้ใช้ร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งนี้ผลข้างเคียงยาแพล็กซ์โลวิด ไม่พบเหมือนในฟาวิพิราเวียร์ ส่วนการกระจายยาจะใช้แนวทางเดียวกันกับยาโมลนูพิราเวียร์ ให้ส่งต่อไปยังรพ.ศูนย์จากนั้นในเขตกระจายยาไปในผู้เชี่ยวชาญ และในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.)จะมีการหารือและติดตามการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี