เปิดแพ็กเกจช่วยแรงงาน-ปชช.
‘สุชาติ’แจงยิบแผนลดส่งเงินผู้ประกันตน
ออกมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงาน
“สุชาติ”ร่วมทีมศก.แจงมาตรการช่วยแรงงาน-ปชช.ลดผลกระทบวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ผู้ประกันตนม.33 จำนวน 11.2 ล้านคน ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 มาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน ลดสมทบร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 1.9 มาตรา 40 จำนวน 10.6 ล้านคน ลดเงินสมทบเหลือร้อยละ 40ขณะที่นายจ้าง 5 แสนราย ลดเงินสมทบร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 รวมทั้งระบบ มีเงินหมุนเวียนประมาณ 1 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยระหว่างร่วมแถลงมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าว นายกฯจึงให้แต่ละหน่วยงานกำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนที่สุด ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ช่วยเหลือ โดยลดเงินสมทบทั้งในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันทุกมาตรา เป็นระยะเวลา3เดือน ได้แก่ ผู้ประกันตนมาตรา33 จำนวน 11.2ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ5 เหลือร้อยละ1
“ยกตัวอย่าง หากคิดบนฐานเงินเดือน 15,000บาท จากเดิมต้องส่งเงินสบทบ 750บาท จะลดลงเหลือส่งเงินสมทบ 150บาท สามารถลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ 600บาทต่อคนต่อเดือน ผู้ประกันตนมาตรา39 จำนวน 1.9ล้านคน ได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 9 เหลือร้อยละ1.9 จากเดิมที่ต้องส่งเงินสมทบ 432 บาท จะลดลงเหลือส่งเงินสมทบ 91บาท หรือลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ341บาทต่อคนต่อเดือน และผู้ประกันตนมาตรา40 จำนวน 10.6ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบในแต่ละทางเลือกลงร้อยละ40 คือ ทางเลือกที่ 1 ลดการส่งเงินทบจากเดิม70บาท ลดลงเหลือ 42บาททางเลือกที่ 2 ลดการส่งเงินทบจากเดิม100บาท ลดลงเหลือ 60บาท ทางเลือกที่ 3 ลดการส่งเงินทบจากเดิม300บาท ลดลงเหลือ180บาท หรือลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ84-360บาทต่อคนต่อเดือน” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวว่า นายจ้าง จำนวน 5แสนราย จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ5 เหลือร้อยละ1ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการผลิต ยกตัวอย่างเช่น หากนายจ้างจ่ายค่าจ้างบนฐานเงินเดือน 15,000บาทต่อลูกจ้าง 1คน หากนายจ้างมีลูกจ้าง 1,000คน จะสามารถลดต้นทุน การผลิตของนายจ้างต่อเดือนลง 600,000บาท รวมระยะเวลา 3เดือน เป็นเงินทั้งสิ้น1,800,000บาท มาตรการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนประมาณ 24.2ล้านคน เป็นเม็ดเงินมูลค่าประมาณ 34,540ล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ 103,620 ล้านบาท
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทั้งในส่วนของนายจ้าง และลูกจ้าง เช่น โครงการ ม.33 เรารักกัน โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ 29จังหวัด การลดเงินสมทบ จำนวน 5ครั้ง
นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีมาตรการรักษาระดับการจ้างตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี จนทำให้ในปี2564 ตลาดการจ้างงานพลิกกลับเป็นบวก มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 170,000 ตำแหน่ง อีกทั้ง รัฐบาลยังมีมาตรการด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข คือ โครงการ Factory Sandbox เพื่อให้ธุรกิจยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ ภายใต้มาตรการทางด้านสาธารณสุข จนทำให้ในปี 2564 มูลค่าภาคการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการในรอบ 11ปี หรือประมาณ 8.7ล้านล้านบาท และด้วยความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรี จึงได้อนุมัติจัดสรรยอดวัคซีนในโครงการวัคซีนมาตรา 33 สำหรับผู้ใช้แรงงานโดยเฉพาะ รวมถึงกำชับให้กระทรวงแรงงานดูแลผู้ใช้แรงงานที่ป่วยโควิด-19 จนนำไปสู่การจัดตั้งฮอสปิเทล (Hospitel) เพื่อรองรับการรักษาผู้ใช้แรงงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี