พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด.ลงพื้นที่สั่งระดมพลปูพรมค้นหา ตชด.สูญหาย ด้วยตัวเอง พร้อมนำหน่วยพลร่ม ชุดช่วย 13 หมูป่าร่วมสังเกตการณ์ ส่วนภรรยา เผยเคยสาบานเลิกเหล้าแต่เลิกได้แค่ 5 ปี ก่อนหวนกลับมาดื่มอีก ผลเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เจ็บสลบถึง 2 วัน
ความคืบหน้ากรณี ด.ต.นิกัน อัศพิมพ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.13 อายุ 50 ปีไปเข้าเวรที่ ร้อย ตชด.136 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังจากออกเวรแล้วหายตัวไป ซึ่งนางรุ่งอรุณ สุรีย์เลิศ ภรรยาและครอบครัวมีความเป็นห่วงเป็นอย่างมากเนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตชด.136 พร้อมเจ้าหน้าที่ทีมสายน้ำมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ระดมกำลังช่วยกันออกติดตามหา จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.นิกันฯ จอดทิ้งเอาไว้บริเวณริมแม่น้ำท้องที่บ้านวังโพธิ์ หมู่ 1 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค โดยมีเสื้อกางเกง รวมทั้งรองเท้า ที่เป็นชุด ตชด.ถูกถอดทิ้งเอาไว้
ต่อมาเวลา 03.00 น.ของวันที่ 21 มี.ค.เจ้าหน้าที่พบ ด.ต.นิกันฯ ไม่สวมรองเท้า ใช้เสื้อคลุมหัว และนุ่งกางเกงในเพียงตัวเดินผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่สถานีรถไฟวังโพธิ์ และเวลา 05.00 น.เดินไปตามรางรถไฟมุ่งหน้าไปทางด้านถ้ำชะนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันออกค้นหามาเป็นเวลา 5 วัน 5 คืนแต่ไม่พบตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 26 มี.ค.65 พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาประชุมวางแผนในการปูพรมค้นหา ด.ต.นิกันฯที่ก้องร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 โดยมี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมนี รอง ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตชด.136 เข้าร่วมประชุมวางแผน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นคณะ พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด.ได้เดินทางไปยังศูนย์บัญชาการชั่วคราวบริเวณริมทางรถไฟหมู่ 1 ต.ลุ่มสุ่ม เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการค้นหา ด.ต.นิกัน พร้อมกับสั่งการด้วยตนเอง
พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด.เปิดเผยภายหลังว่า จากการที่ได้รับฟังการรายงานสถานการณ์ จุดเริ่มต้นจะต้องเพ่งเล็งค้นหาที่บริเวณจุดที่พบรถจักรยนต์ของ ด.ต.นิกันฯที่จอดทิ้งเอาไว้บริเวณริมแม่น้ำแควน้อย และจุดที่พบหมวกของ ด.ต.นิกันฯ ที่อยู่บนภูเขา รวมทั้งจุดที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ว่าผู้สูญหายเดินไปทางไหน และจะต้องเดินปูพรมเคลียร์พื้นที่บนภูเขาอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าแต่ละพื้นที่นั้นได้เคลียร์แล้วแต่ไม่พบ
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่การข่าวออกหาข่าวด้วยการไปพบปะเพื่อสอบถามผู้นำท้องที่ รวมทั้งติดตามหาตามสถานที่ต่างๆเช่นตามวัด ตามโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง รวมทั้งตามโรงพยาบาล และค้นหาทางน้ำ ซึงทุกอย่างเหมือนกับการมาเริ่มต้นกันใหม่
ถามว่า ดต.นิกัน มีประวัติเกี่ยวกับทางสมองหรือไม่นั้น จากการซักถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าไม่มี แต่ก่อนหน้านี้เคยประสบอุบัติเหตุรถจักรยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บมาก่อน แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนเรื่องในครอบครัวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร สำหรับการที่ ด.ต.นิกัน ไม่ได้สวมรองเท้าไปด้วยนั้น เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเดินไปไหนได้ไม่ไกล แต่การที่ยังไม่กลับมาอาจจะเป็นเพราะมีอาการเครียดทำให้ไม่สบายใจจึงยังไม่กลับบ้าน ซึ่ง ด.ต.นิกันฯ เคยอดอาหารมานานถึง 15 วัน ดังนั้นเรื่องการกินไม่น่ามีปัญหา สำหรับภารกิจในการค้นหาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะช่วยกันให้ดีที่สุด
สำหรับหน่วยงานที่เข้ามาร่วมกันค้นหาในครั้งนี้นั้นมีทั้งเจ้าหน้าที่ ตชด.136 เจ้าหน้าที่ตอบโต้ภัยพิบัติที่นำโดรนมาบินจับอุณหภูมิ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำ ทีมชลกาญจน์ มูลนิธิพิทักษ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ ตชด.หน่วยพลร่มที่มีความชำนาญและมีประการในการค้นหาผู้ที่สูญหายเข้าไปในถ้ำ หรือทีมค้นหา 13 หมูป่า เดินทางมาร่วมด้วย
ด้านนางรุ่งอรุณ สุรีย์เลิศ อายุ 35 ปี ภรรยา ด.ต.นิกันฯ เล่าว่า สามีของตนชอบดื่มเหล้ามาก เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาเคยไปสาบานกับสิ่งศักดิ์ที่บ้านเกิดคือจังหวัดอุบลราชธานี ว่าจะเลิกเหล้าหลังจากไปสาบาน สามีของตนเลิกเหล้าได้ประมาณ 5 ปีแต่สุดก็กลับมาดื่มอีก หลังจากนั้นก็มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง และประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มนอนสลบไปถึง 2 วัน ขณะนั้นลูกคนโตยังเล็กอยู่ และก่อนหน้านี้สามีเคยหายตัวไปลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่พอถึงเวลาเที่ยงคืนสามีก็เดินออกมาจากป่าเอง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี