‘โอมิครอน’ติดลมบน!‘หมอนิธิพัฒน์’แนะศึกษา‘ยาเก่า’ถูกกว่าของใหม่ สู้ติดเชื้อ
31 มีนาคม 2565 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “นิธิพัฒน์ เจียรกุล” มีเนื้อหาดังนี้...
“ท่าทางโอไมครอนจะติดลมบน ค้างอยู่บนที่ราบสูงนานไม่ยอมลงเสียที สาเหตุน่าจะมาจากไฟลามทุ่งกระจายออกจากกทม.ไปยังทั่วประเทศ ต้องรอเวลาอีกพักหลังจากที่จุดศูนย์กลางชะลอตัวมาได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงของทั้งประเทศยังไม่ถึงพีคได้ง่ายๆ ถ้ายังไปต่อเช่นนี้ตัวเลขการเสียชีวิตรายวันอาจไปถึงหลักร้อยต้นๆได้
อย่างไรก็ตามหากอยากเห็นหมุดหมายการปรับลดจากโรคระบาดเป็นโรคประจำถิ่นเกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งปีหลัง ทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจแข็งขันควบคุมโรคกันต่อไปอีกพักใหญ่ เทศกาลสงกรานต์คงสนุกสนานกันได้พอประมาณแต่ต้องไม่ให้เกินเลย
ที่สำคัญต้องชักชวนกันให้ฉีดวัคซีนทั้งเข็มมาตรฐานและเข็มกระตุ้นมากเข้าไว้ จนอย่างน้อยให้กลุ่มเปราะบางได้รับเข็มมาตรฐานตามเป้าหมาย 80% สำหรับในอีกสามเดือนข้างหน้า ยิ่งถ้าได้ถึงเข็มกระตุ้นในทุกกลุ่มด้วยก็จะยิ่งดีไปกันใหญ่
ในช่วงเตรียมการเปลี่ยนผ่านของโรคโควิด-19 กันอยู่นี้ มีการกลับมาพูดกันอีกรอบถึงการใช้ประโยชน์ของการตรวจแอนติบอดี้ (antibody tests) ล่าสุดสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ของอเมริกา ได้ออกคำแนะนำว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอ ที่จะให้คำแนะนำได้ว่าการตรวจแอนติบอดี้เพื่อประเมินภูมิคุ้มกันนั้น มีประโยชน์สำหรับช่วยตัดสินใจเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ หรือช่วยการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้การรักษาด้วยแอนติบอดี้ค็อกเทลเพื่อลดความรุนแรงของการติดเชื้อหรือไม่ ส่วนคำแนะนำเรื่องการใช้ยาหรือแอนติบอดี้สูตรใหม่ๆอื่นในการรักษานั้น บ้านเราคงยังเข้าไม่ถึงได้ง่ายเนื่องจากราคาที่ค่อนข้างแพง https://files.covid19treatmentguidelines.nih.gov/.../sect...
ลองมามองหาอาวุธราคาย่อมเยาว่าพอจะทดแทนได้ไหม นอกเหนือจากยาใหม่ๆ แพงๆ ที่กล่าวไปแล้ว การนำยาเก่าที่ใช้รักษาโรคบางชนิดในอดีต กลับมาใช้รักษาโรคอื่นในปัจจุบัน (drug repurposing) เป็นวิธีหนึ่งในการค้นหาอาวุธมาใช้ต่อสู้กับเชื้อโรคอุบัติใหม่ ได้มีหลักฐานในห้องทดลองว่า ยาถ่ายพยาธิตัวตืดชื่อ นิโคลซาไมด์ (niclosamide) มีใช้กันมานมนานอักโขแล้ว สามารถยับยั้งไวรัสก่อโรคโควิด-19 ได้ดี เหมือนกับที่ยับยั้งไวรัสไข้เลือดออกและไวรัสอีโบล่าที่มีการศึกษามาก่อน
ที่น่าสนใจคือ ยานี้ยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และฤทธิ์ขยายหลอดลม จึงอาจมีประโยชน์ในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิดโดยเฉพาะในรายที่มีหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบ
แต่ปัญหาก็คือยาดูดซึมด้วยการกินได้ไม่ดี การทดลองใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่กำลังดำเนินการอยู่จึงให้ผลไม่แน่นอน ได้มีการปรับแก้ไขสูตรยากินชนิดเม็ดให้ดูดซึมดีขึ้น หรือปรับเป็นรูปอื่น เช่น ยากินชนิดน้ำ ยาพ่นจมูก และ ยาสูดพ่นเข้าหลอดลมและปอด เอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จจะได้มียาดีราคาถูกไว้รับมือกับโรคโควิด-19 ประจำถิ่น https://bpspubs.onlinelibrary.wiley.com/.../10.../bph.15843”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี