ศาลชี้ผิดจริยธรรมร้ายแรงรุกป่า
‘ปารีณา’ไม่รอด
ห้ามลงเล่นการเมืองตลอดชีวิต
‘เอ๋’โอดรู้สึกตัวชา/ตกงาน100%
ครวญไม่มีสภา-ไม่เหลืออะไรแล้ว
กกต.จัดเลือกตั้งซ่อมภายใน45วัน
‘พปชร.’พร้อมส่งผู้สมัครลงแทน
รอมติที่ประชุมกก.บห.พิจารณา
ปิดฉากการเมือง “เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์” ศาลฎีกาพิพากษา ผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีรุกป่า-ครอบครองที่ดินราชบุรีโดยมิชอบเจตนาไม่คืนที่ดินเขตปฏิรูป สั่งพ้นสส.-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป เจ้าตัวเปิดใจ ตัวชาหลังศาลพิพากษา ทำใจพ้อไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีสภาให้ไปตกงาน 100% กกต.จัดเลือกตั้งซ่อม สส.ราชบุรีแทนภายใน 45 วัน‘พปชร.’ยันส่งผู้สมัครลงซ่อมรักษาพื้นที่‘เอ๋ ปารีณา’เตรียมไว้แล้ว รอกก.บห.ก่อน‘บิ๊กตู่’ยัน’วราวุธ-มนัญญา’เคลียร์จบแล้ว มั่นใจ ไร้ขัดแย้ง ขณะที่มติกมธ.กม.ลูกปิดช่อง‘ส.ว.-กลุ่มการเมือง-ถูกตัดสิทธิ‘ตั้งพรรค ยืนค่าบำรุงพรรครายปี20บ./ตลอดชีพ200บ.
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ คมจ.1/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ผู้คัดค้น กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมและขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน10 ปี โดย น.ส.ปารีณา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาล มีเพียงทนายความเดินทางมาแทน
สั่ง‘ปารีณา’พ้นสส.-เพิกถอนสิทธิ์10ปี
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความพยานฝ่ายผู้ร้องแ ละผู้คัดค้านแล้วเห็นว่า น.ส.ปารีณา ผู้คัดค้านฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม มีคำสั่งให้ผู้คัดค้าน พ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ 25มี.ค.64ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกา สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตลอดไป และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี มีผลให้ผู้คัดค้าน ไม่มีสิทธิ์รับเลือกตั้งเป็นส.ส. สว.ผู้บริหารท้องถิ่นและดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา235วรรคสี่ และ พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา81,87และมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ขัอ 3 ข้อ 17 ประกอบข้อ27 วรรคสอง
ปมฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่10 ก.พ.65คณะกรรม การ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยึดถือ ครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวมไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงและกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการปปช.ไต่สวนและมีความเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ปปช.เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาวินิจฉัย โดยในวรรคสาม ระบุว่าให้นำความในมาตรา 81 และมาตรา 86 มาใช้บังคับด้วยอนุโลม มาตรฐานทางจริยธรรมฯมาตรา81ระบุว่ากรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับฟ้องตามมาตรา77ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาฯมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ไม่มีสิทธิลงเล่นการเมืองตลอดไป
ในกรณีที่ศาลฎีกาฯพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้น พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้ โดยวรรคสองระบุใจความสำคัญว่าหากถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้ว ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองอีกตลอดไปมาตรา 86ระบุว่ากรณีคำพิพากษาของศาลฎีกาฯถึงที่สุดให้ยกฟ้อง ถ้าผู้ดำรงตำแหน่งหยุดปฏิบัติหน้าที่และยังมิได้พ้นจากตำแหน่งไปก่อน ให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ยอมรับคำพิพากษา/ยันไม่ได้รุกป่า
ภายหลังนายทิวา การกระสัง ทนายความ เปิดเผยว่ายอมรับผลของคำพิพากษาแต่ยืนยันว่าน.ส.ปารีณาไม่ได้บุกรุกที่ป่าสงวนตั้งแต่แรกแต่เป็นการรับที่ดินต่อจากบิดาโดยพื้นที่ดังกล่าว ยอมรับว่าเป็นที่ดินส.ป.ก.610ไร่ ในปี 2555 และศาลชี้ให้เห็นว่าน.ส.ปารีณา ไม่ใช่คนจนและไม่ใช่บุคคลที่เป็นชาวไร่ในการประกอบอาชีพ ดังนั้น การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.จำนวนมาก เป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน แม้ น.ส.ปารีณา จะคืนที่ดินแล้วในปี2562ซึ่งตามหลัก น.ส.ปารีณา ควรจะต้องมอบคืนเลย ตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงถือว่ามีเจตนาที่จะครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ทำให้ประชาชนไม่สามารถได้รับการจัดสรรที่ดินในส่วนนี้ได้ ศาลจึงพิจารณาว่าเข้าข่ายการผิดจริยธรรมร้ายแรง
เป็นนักการเมืองไม่ได้/พักผ่อน
“การตัดสินวันนี้ไม่สามารถทำให้น.ส.ปวีณา เป็นนักการเมืองได้และต้องพักผ่อนไปอีก10ปี ส่วนการตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ต้องดูว่าคำว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคุณสมบัติอะไรเช่นเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติการเลือกตั้ง และหากถูกตัดสิทธิ์ลง ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่น.ส.ปารีณาก็มีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกครั้ง ขณะนี้ก็ได้ไปพักผ่อนเช่นเดียวกับนายสิระ เจนจาคะ ทั้งนี้ตนอยากให้รู้ว่า ที่ผ่านมา น.ส.ปารีณาโดนมาเยอะ นี่คือ ผลของผู้กล้าที่ตายกลางสนามรบ เป็นเรื่องปกติ แต่วีรบุรุษ ไม่เคยตายกลางสนามรบ นี่คือการเมืองไทย” นายทิวา กล่าว
เล็งหาช่องทางดิ้นสู้ยื่นอุทธรณ์
อย่างไรก็ดีนายทิวากล่าวอีกว่าวันนี้หลังจากการฟังคำพิพากษา ยังไม่ได้พูดคุยกับน.ส.ปารีณา แต่ทาง น.ส.ปารีณาได้เตรียมการทำฟาร์มไก่ใหม่ ส่วนเรื่องคดี ก็ต้องดูว่าตามกฎหมายสามารถยื่นอุทธรณ์ไปยังที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาได้หรือไม่ หากทำได้ก็จะลองยื่นอุทธรณ์ดู ในส่วนของคดีอาญาทางการเมืองทั่วไปสามารถยื่นอุทธรณ์ได้แต่ในกรณีผิดจริยธรรม เป็นการพิพากษาคดีแรกจึงต้องศึกษาดูข้อกฎหมายก่อนว่าจะใช้ระเบียบเดียวกันหรือไม่
ปารีณาดีดตัวออกพ้นห้องไลน์พปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังศาลพิพากษา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายเเรงจากคดีรุกป่าราชบุรี ให้พ้นตำเเหน่งส.ส.ตั้งเเต่วันที่25มี.ค.64เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง10ปี เเละไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้งเเละดำรงตำเเหน่งทางการเมืองตลอดชีวิตนั้น ปรากฏว่าในไลน์กลุ่มส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้มี ส.ส.เข้ามาให้กำลังใจ น.ส.ปารีณา กระทั่งเวลา10.21น.น.ส.ปารีณาได้ดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่มส.ส.พรรคพลังประชารัฐไปแล้ว
เปิดใจตกงาน100%ไม่เหลืออะไรแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อ น.ส.ปารีณา ตั้งแต่รู้ศาลมีคำพิพากษาออกมาก็ไม่สามารถติดต่อได้จนเวลา13.45น.น.ส.ปารีณาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วยเสียงสั่นเครือว่า“ตอนนี้ยังไม่เจอใคร ยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ตัวชา กำลังทำใจอย่างเดียว ไม่ต้องทำพื้นที่แล้ว เพราะเหมือน คนตกงาน100เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสภาให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว”
กกต.จัดลต.ซ่อม สส.ราชบุรีใน45วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา105(1)เมื่อตำแหน่ง สส.ที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลง ต้องตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นแทนตําแหน่งที่ว่างภายใน 45วัน ส่งผลให้ กกต.จะต้องจัดเลือกตั้งซ่อมส.ส.ราชบุรี เขต 3ใหม่ ภายในกรอบ 45 วัน
พปชร.พร้อมส่งผู้สมัครลงลต.ซ่อม
บ่ายวันเดียวกัน นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าภาค7(กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี และเพชรบุรี) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต3จ.ราชบุรีแทน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ว่า ยืนยันว่าพปชร.จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.แน่นอน เพื่อรักษาพื้นที่แต่ต้องรอ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร.เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาก่อน ส่วนตัวผู้สมัครส.ส.เท่าที่ทราบขณะนี้มีการเตรียมเอาไว้แล้ว ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในเรื่องนี้
ทุกคนเห็นใจเป็นกำลังใจให้’ปารีณา’
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่าพรรค พปชร.เคารพคำตัดสินของศาล และเชื่อว่าน.ส.ปารีณา ยอมรับคำตัดสินของศาลเช่นเดียวกัน พวกเราทุกคนเห็นใจ น.ส.ปารีณาในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมา เป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ ตั้งใจทำเพื่อพี่น้องประชาชน เชื่อว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำความผิด พวกเราทุกคนเป็นกำลังใจให้
‘บิ๊กตู่’ยัน’ท๊อป-มนัญญา’เคลียร์จบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5เม.ย.ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่มีการพูดจากันซึ่งตนต้องการเดินหน้าไปสู่การประชุมวาระอื่นๆแต่มีการพูดกันไม่จบเสียที เป็นเรื่องเล็กน้อยเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย ในเรื่องของถุงพลาสติก วันนี้มีมาตรการในเรื่องการลดใช้ถุงพลาสติกทำให้บรรดาภาคเอกชนต่างๆสนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาล ไม่แจกถุงพลาสติกขณะที่รัฐบาลก็สร้างความเข้าใจขอให้ทุกคนนำถุงผ้าไปใช้ แต่ถ้าต้องการใช้ถุงพลาสติกอีกก็ต้องซื้อ เพราะทุกอย่างมีต้นทุน
วอนอย่าขยายให้เป็นเรื่องใหญ่โต
“เข้าใจกันแล้วพูดจากันแล้วหัวหน้าพรรคก็คุยกันแล้วตัวทั้งสองท่านก็คุยกันแล้วก็แค่นั้นเองในฐานะที่ผมเป็นประธานการประชุมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จำเป็นต้องให้หยุดพูดในเรื่องนี้เพื่อไปเรื่องอื่น เพราะยังมีอีกหลายเรื่องก็เท่านั้นเอง โกรธกันไม่ได้อยู่แล้ว อย่าขยายให้เป็นเรื่องใหญ่โตทั้งสองท่านก็รายงานมาให้ผมทราบแล้วเขาคุยกันแล้ว”พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
ให้กำลังใจผู้สมัครผู้ว่าฯทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่ามีความห่วงใยปัญหาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รัฐบาลพยายามทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สะอาด มีระเบียบเรียบร้อย คืบหน้าเยอะพอสมควรแล้ว และหวังว่าในวันหน้าไม่ว่าใครจะมานั่งตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ก็ควรจะต้องทำในเรื่องเหล่านี้ด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเรื่องคูคลอง คลองระบายน้ำ น้ำท่วม ซึ่งการแก้ไขปัญหาทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะติดอยู่ที่ประชาชนว่าจะยินยอม หรือไม่ยินยอม นี่คือหลักการการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องทำประชาพิจารณ์ทั้งหมด สิ่งสำคัญที่สุดทำอย่างไรให้คลายความแออัดในพื้นที่กรุงเทพฯด้วยการขยายพื้นที่ทางเศรษฐกิจออกไปรอบนอกพื้นที่ จะต้องมานั่งคิดกันใหม่ หากอยู่กันในใจกลางเมือง ก็จะแน่นแบบนี้ หากจะทำอะไรซักอย่างก็ดูจะยากเพราะต้องรื้อถอนเคลื่อนย้ายกันเยอะก็ขอให้ช่วยกันคิดกัน พร้อมให้กำลังใจผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ทุกคนอยู่แล้วและคาดหวังว่าเราจะได้ผู้ว่าฯกทม.ที่ดี
กมธ.ปิดช่องสว.-กลุ่มการเมืองตั้งพรรค
ที่รัฐสภา นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แถลงภายหลังการประชุม โดยนายรงค์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมดำเนินการก่อตั้งพรรคการเมืองและค่าบำรุงพรรคการเมืองโดยในประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมดำเนินการก่อตั้งพรรคการเมือง ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับร่างของ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอในมาตรา 9 วรรคหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวโยงกับมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญ ที่เปิดช่องให้อดีต ส.ว.กลุ่ม กปปส.และผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง สามารถจัดตั้งพรรคได้ ซึ่งที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วย24เสียง เห็นด้วย 19 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง จากองค์ประชุมทั้งหมด 45 เสียง และให้กลับไปใช้ข้อความตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบัน ที่ห้ามบุคคลเหล่านี้ เป็นผู้จัดตั้งพรรค
ยืนค่าสมัครรายปี20บ.ตลอดชีพ200บ.
ด้านนายอัครเดช กล่าวว่า สำหรับประเด็นค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบรายปีและแบบตลอดชีพ มีการพิจารณาว่าควรแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบรายปีและแบบตลอดชีพหรือไม่ และควรกำหนดจำนวนค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบรายปีและแบบตลอดชีพไว้ในข้อบังคับพรรคการเมืองหรือไม่ ที่ประชุมมีมติให้คงความในมาตรา 3 และมาตรา 4 ของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไว้ตามเดิม คือรายปี 20บาท ตลอดชีพ 200 บาทด้วยคะแนนเสียง ไม่เห็นด้วย 29 เสียง เห็นด้วย10 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากองค์ประชุมทั้งหมด 41 เสียง สำหรับประเด็นที่ยังมีการถกเถียงกันมาก คือเรื่องไพรมารีโหวตในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองและสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะใช้ 100 หรือ 500 หาร ซึ่งกมธ.จะกลับมาประชุมอีกครั้งในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เนื่องจากสัปดาห์หน้าเป็นหยุดสงกรานต์ จึงไม่มีการประชุม
‘ฝ่ายค้าน’ซักฟอกไม่เกิน23ส.ค.
ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ตั้งแต่ช่วงเปิดสมัยประชุมเป็นต้นไปว่าเรามีการประชุมร่วมกันตลอดโดยจะมีการยื่นให้เร็วที่สุด แต่มีเงื่อนไขเพียงว่าต้องดูบริบทโดยรวม ว่าการยื่นขอเปิดอภิปรายฯ จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ประเทศชาติและสภาฯหรือไม่เช่นการยื่นในช่วงที่มีการพิจารณากฎหมายสำคัญ และทำให้กฎหมายพิจารณาล่าช้าไปหรือขัดขวางเราก็จะนำเหตุผลเหล่านั้นมาพิจารณากำหนดเวลาในการยื่น ส่วนวันที่ 23 พ.ค.นี้จะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายฯเลยหรือไม่นั้น ยังไม่กำหนดถึงขนาดนั้น เราดูภาพอื่นๆประกอบไปด้วย เช่นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ที่กำลังพิจารณาอยู่จะได้เข้าพิจารณาช่วงใดหรือพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2566 ที่ชัดเจนแล้วว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ วาระรับหลักการ วันที่ 1-2 มิ.ย.นี้
“ถือเป็นจังหวะคาบเกี่ยวพอสมควร เดิมตั้งใจจะยื่นก่อนการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณฯ พอกำหนดไทม์ไลน์ พ.ร.บ.งบฯมาอย่างนี้ก็ทำให้จังหวะการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทำได้ไม่ต่อเนื่องอย่างแน่นอน เว้นแต่งบประมาณผ่านไปแล้วและนำกลับมาพิจารณาในวาระ2-3 ช่วงปลายเดือนส.ค.นี้คิดว่าช่วงกลางๆนี้ น่าจะเหมาะสม เราเตรียมพร้อมตลอดนัดประชุมเกี่ยวกับเนื้อหาสาระอย่างต่อเนื่อง”นพ.ชลน่านย้ำ
ยังฟันธงรัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม
เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ของรัฐบาล จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯกล่าวว่า เป็นเจตจำนงของรัฐบาลที่จะอยู่ให้ครบ4 ปี หรือดึงเวลาให้อยู่ครบเทอมมากที่สุด แต่เท่าที่ดูตนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่น่าจะอยู่ครบเทอม ด้วยปัจจัย1.ผลงานความต้องการของประชาชนในการแก้ปัญหา 2.รัฐบาลจะยุบสภาก่อนและไปเลือกตั้งช่วงใกล้ครบเทอม อย่างที่เขาแพลนออกมาว่าหลังการประชุมเอเปค เพราะต้องการผลงานในช่วงการประชุมเอเปค รวมถึงถ้าปล่อยให้ครบเทอม จะมีการย้ายพรรคของ สส.ดังนั้น การยุบสภาหลังเอเปค จะเหมาะสม เพราะกฎหมายกำหนดให้มีการเลือกตั้งไม่เกิน 60วัน จึงเป็นจุดสำคัญ
ตั้ง3ไทม์ไลน์สำคัญขวางรอเชือด
“จะยื่นช่วงไหนต้องดูอีกที โดยมี3 จุดสำคัญ 1.จุดที่เรายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เราทดสอบเบื้องต้นคือ พรบ.งบประมาณฯ วาระรับหลักการ จะมีประเด็น หรือร่อยรอยใด ที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสส.และไม่เป็นอันหนึ่งเดียวกันกับรัฐบาลโดยเราจะยื่นหลังจากนั้นเป็นจุดสำคัญ แต่หากผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะไปเจอจุดที่2.วาระครบ 8 ปีของนายกฯ 23ส.ค.นี้ และจุดที่ 3 หลังการประชุมเอเปค”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี