ดับสังเวย26ศพ
ประเดิมสงกรานต์/เจ็บอีก238
แห่กลับเหนือ-อีสานรถหนาแน่น
เปิดฉากวันแรก 7 วันอันตราย สงกรานต์ปีนี้ เสียชีวิต 26 ศพ บาดเจ็บ 238 คน “ซิ่ง-เมา”เป็นสาเหตุหลัก ด้าน นายกฯ ห่วงช่วงสงกรานต์ วอนประชาชนเคารพกฎจราจร เพื่อความปลอดภัย ย้ำไม่อยากเห็นความสูญเสียใดๆเกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่11 เม.ย.2565ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2565 โดยพบว่า ในวันที่ 11 เม.ย. 2565 เกิดอุบัติเหตุ237ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ238 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 32.91 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.94 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.90 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.73 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.38 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.97 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 11.01-12.00 น. ร้อยละ 8.44 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 23.86
สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (14 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี (3 ราย) ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,902 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,343 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 350,748 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 64,343 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,275 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17,748 ราย
นายนิรัตน์กล่าวอีกว่าศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)ได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เน้นการเรียกตรวจและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเส้นทางเลี่ยง ทางลัด และทางเชื่อมต่อสู่ถนนสายหลักในจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรงวิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง จึงสามารถใช้ความเร็วได้สูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
โดยใช้กลไกของจุดตรวจร่วมและด่านชุมชน เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงและลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ง่วงแล้วขับ รวมถึงเพิ่มการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถตู้ รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะในลักษณะที่เป็นอันตราย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง นอกจากนี้ ให้สนธิกำลังหน่วยทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลการจราจร เปิดช่องทางพิเศษ เพิ่มจุดบริการประชาชน จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณจุดตัดเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรแก่ประชาชน
ขณะที่ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเสริมว่า จากข้อมูลสถิติพบว่าจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตลดลงกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันแรกของการรณรงค์ย้อนหลัง 3 ปี แต่สาเหตุหลักยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ ขณะที่พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผู้ประสบเหตุเสียชีวิต คือการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ศปถ. จึงได้ประสานจังหวัดเข้มงวดกวดขันการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยของผู้ขับขี่ เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลอดทั้งวัน เส้นทางหลายสายจะยังมีปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง จึงขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว หากขับรถระยะทางไกลให้หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยสำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
ด้าน นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ ในวันแรกของการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 พบมีคดีทั้งสิ้น 459 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 328 คดี คิดเป็นร้อยละ 71.46 คดีขับรถประมาท 8 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.74 และคดีขับเสพ 123 คดี คิดเป็นร้อยละ 26.8 จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ นนทบุรี 55 คดี อุบลราชธานี 47 คดี และพระนครศรีอยุธยา 44 คดี
ซึ่งผู้กระทำผิดคดีขับรถขณะเมาสุรา กรมคุมประพฤติจะดำเนินการคัดกรองตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงจากการติดสุราจะส่งบำบัดรักษาตามสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชน ณ จุดบริการประชาชน ด่านตรวจค้น และด่านชุมชน จำนวน 25 จุด
โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ผู้ถูกคุมความประพฤติ ประชาชน และภาคีเครือข่าย จำนวนทั้งสิ้น 803 คนเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ “เมาขับ จับติด EM” และทำงานบริการสังคมตามจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เช่น การทำความสะอาดป้ายจราจรและท้องถนน การตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ รวมทั้งขอให้ประชาชนเดินทางปลอดภัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตอนหนึ่งระบุว่าวันที่13เมษายน เป็นวันเริ่มวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ขอให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัย เป็นไปตามขนบธรรมเนียมของไทย เตรียมความพร้อมตัวเองให้ดีในการขับรถ อย่าดื่มสุรา พักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสอบยานพาหนะ ปฏิบัติตามกฎจราจรซึ่งสถิติที่รายงานมาถึงวันนี้น้อยลงกว่าปีก่อน แต่ไม่ให้มีเลยดีกว่าที่จะมีการสูญเสีย เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสียใดๆทั้งสิ้น
“ได้ย้ำเรื่องความปลอดภัย ทั้งการอำนวยความสะดวกบนท้องถนน มีเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง กวดขันแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด แต่ละพื้นที่ต้องรักษาพื้นที่ตัวเองให้เกิดความปลอดภัย ชุมชนปลอดภัย คนจะได้เดินทางไปมาหาสู่กันได้มากขึ้นรัฐบาลได้หารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและศบค.เตรียมความพร้อม ระดมสรรพกำลังและบุคคลากรทางการแพทย์ ยาเวชภัณฑ์อย่างเพียงพอต่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะมากขึ้น” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯยังระบุเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ต้องช่วยกันเพราะไม่สามารถดูแลได้ 24 ชั่วโมงในเวลาที่ทุกคนเป็นอิสระเวลาเกิดอุบัติเหตุที่เสียใจทุกครั้งไป ตนก็เสียใจกับการสูญเสีย ไม่เคยสบายใจกับเรื่องเหล่านี้ ถนนเยอะขึ้น รถก็วิ่งได้เร็วขึ้น แต่ในช่วงสงกรานต์แออัดขับเร็วไม่ได้ ก็เห็นมีบาดเจ็บสูญเสียทุกที ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำเตือนมาโดยตลอดเรื่องความปลอดภัย แต่พื้นที่กว้างใหญ่ คนเยอะ แต่ก็พยายามทำเต็มที่ ย้ำไปแล้วทุกหน่วยงานรับทราบอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของเขาไม่ต้องไปย้ำบ่อย ในเมื่อแต่งตั้งมาจะต้องไปย้ำอะไรบ่อยๆ ฉะนั้นต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี