ลูกทรพีบังคับขอเงินแม่จะเอาไปซื้อยาบ้าเสพไม่ได้ดั่งใจ ใช้ท่อนไม้ทุบตีและบีบคอหวังจะฆ่าแม่ พ่อเลี้ยงเห็นเข้าไปช่วยลูกเลี้ยงโมโหชักปืนจะยิงใส่ พ่อเลี้ยงฮึดสู้ยื้อแย่งกระสุนลั่นโดนหน้าอกลูกเลี้ยงดับ ก่อนยืนรอมอบตัว แม่เผยลูกชายขู่บังคับขอเงินและทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ถ้าลูกไม่ตายตนกับพ่อเลี้ยงก็คงจะถูกฆ่าตายทั้งคู่

เมื่อ​ช่วง​เย็น​วันที่​ 12 เม.ย.65​ ที่ผ่านมา​ พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผู้กำกับการ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่โนนเจริญ ต.สนามชัย อ.สตึก ว่ามีเหตุยิงกันในหมู่บ้านมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สืบสกุล  เกงขุนทด รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.สตึก พร้อม พ.ต.ท.กรกช จงนิมิตสถาพร สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.สตึก นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง   

ที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 227 บ้านไร่โนนเจริญ ต.สนามชัย อ.สตึก พบเพียงรอยเลือดอยู่บริเวณพื้นดินหน้าบ้านหลังดังกล่าว จากการสอบถามทราบว่าผู้ที่ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ คือ นายลิขิต ธรรมนิยม อายุ 34 ปี ซึ่งหน่วยกู้ชีพได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสตึกก่อนหน้านี้แล้วและทราบภายหลังว่านายลิขิต ซึ่งถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณใต้ราวนมด้านขวา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตที่ รพ.แล้ว 

ส่วนคู่กรณี คือ นายพรม พาละพล อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุและเป็นพ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งได้นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่บ้านไม่ได้หลบหนีไปไหน  ส่วนอาวุธปืนของกลางซึ่งเป็นปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ก็ยังตกอยู่ที่เกิดเหตุ 

จากการสอบถามนายพรม พ่อเลี้ยง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายลิขิต ลูกเลี้ยงได้มาขอเงินกับผู้เป็นแม่จำนวน 500 บาท แต่พอแม่บอกว่าไม่มีเงิน  เพราะรู้ว่าลูกชายจะเอาเงินไปซื้อยาบ้าเสพ ทำให้นายลิขิต ลูกชาย ไม่พอใจจึงได้ใช้ท่อนไม้ตีท้ายทอยแม่ และใช้มือบีบคออีก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้เข้าไปช่วยและบอกให้ลูกเลี้ยงหยุด ทำให้ลูกเลี้ยงโมโห หันมาทำร้ายตนเองด้วยการใช้ไม้ตีที่หลัง 3 ครั้ง ทั้งยังชักปืนที่พกติดตัวมา พยายามจะยิงใส่ตนเอง จึงตัดสินใจกระโดดเข้าไปแย่งปืน ช่วงที่ต่อสู้ยื้อแย่งกันกระสุนปืนเกิดลั่นดังขึ้น 1 นัด ตอนแรกคิดว่าไม่ได้โดนใครไม่นานลูกเลี้ยงก็หงายหลังล้มลง จึงรู้ว่ากระสุนโดนหน้าอกซ้ายทะลุหลังของลูกเลี้ยงนอนหายใจรวยริน จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ และมีหน่วยกู้ชีพมารับตัวลูกเลี้ยงไปส่ง รพ.กระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุด    

ด้านนางตื้น ศรีตะวัน อายุ 64 ปี แม่นายลิขิต เล่าว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตและคนกลางต่างก็มีครอบครัวไปทำมาหากินตามปกติ ส่วนนายลิขิต เป็นลูกชายคนเล็กเพิ่งเลิกรากับภรรยาได้ประมาณ 2 ปี เพราะติดยาเสพติด มีลูกกับภรรยา 2 คน อายุ 7 ขวบ กับ 11 ขวบ ตนก็ต้องเอามาเลี้ยง เพราะลูกชายไม่ทำการทำงาน วันๆ ก็จะชอบมาขอเงิน แต่ตนไม่ได้ให้เพราะรู้จะลูกจะเอาไปซื้อยาบ้าเสพ อีกทั้งตนก็มีรายได้แค่จากการรับจ้างตัดอ้อย และเบี้ยคนชราเท่านั้น ต้องเก็บไว้ใช้ในครอบครัวและเลี้ยงหลาน 2 คนด้วย ก็พยายามบอกให้ลูกไปทำมาหากินเพราะโตแล้ว

ที่ผ่านมาเวลาลูกมาขอเงินแล้วตนเองไม่ให้ลูกก็จะทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ก็ต้องอยู่อย่างทุกข์ใจมาตลอด กระทั่งล่าสุดลูกก็มาขอเงินอีกพอไม่ได้ดั่งใจก็ใช้ไม้ตีและบีบคอหวังจะฆ่าตนให้ตาย แต่สามีใหม่ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงมาเห็นพอดีจึงได้เข้ามาช่วย จนลูกชายโมโหหันไปทำร้ายพ่อเลี้ยงด้วยทั้งยังชักปืนจะยิงใส่ แต่พ่อเลี้ยงฮึดสู้และแย่งปืนจนกระสุนลั่นไปโดนลูกชายเสียชีวิต

ผู้เป็นแม่ ยังบอกด้วยว่า ไม่เสียใจที่ลูกจบชีวิตแบบนี้ เพราะถ้าลูกชายไม่ตาย ตนกับพ่อเลี้ยงก็คงจะถูกลูกฆ่าตายทั้งคู่ ที่ผ่านมาก็อยู่อย่างทุกข์ทรมานใจมาตลอด แก่แล้วยังต้องรับจ้างหาเลี้ยงอีก

อย่างไรก็ตาม​ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ก็ได้แจ้งข้อหานายพรม “กระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ส่วนศพผู้เสียชีวิตก็จะส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.บุรีรัมย์ อีกครั้ง เพื่อดูวิถีกระสุนว่าตรงกับคำให้การของผู้ต้องหาหรือไม่ เพื่อประกอบสำนวนคดี กระดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป - 003