รวบผัวหึงโหด หักขาโต๊ะทุบหัวเมีย ลากกลับบ้าน เช้ากลายเป็นศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พังงา ว่า เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 15 เมษายน 2565 ร.ต.อ.พิพัฒน์ ทองร่วง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 2 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จึงรายงาน พร้อมประสาน พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.ท้ายเหมือง , พ.ต.ท.ชัยยุทธ บุญใหญ่ รอง ผกก.สอบสวน , พ.ต.ท.หญิง ญาณิสร ประสงค์ รองผกก.พฐ.ภ.จว.พังงา , ชุดสืบสวน , สายตรวจ สภ.ท้ายเหมือง , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.พังงา , ฝ่ายปกครอง , แพทย์เวร รพ.ท้ายเหมือง เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนนสายบางทองเหนือ ภายในบ้านพบศพผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ฉัตรฑริกา อายุ 29 ปี ที่อยู่หมู่ 7 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน สภาพศพนอนหงายมีผ้าถุงลายดอกสีน้ำตาลห่มร่างกาย ใส่เสื้อแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนต์ขาสั้นเปื้อนโคลน มีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งที่หน้าผาก 1 แผล ศีรษะด้านซ้ายอีก 3 แผล ตามร่างกายมีรอยช้ำทั่วร่าง ด้านหลังมีรอยถลอก
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายดื่มเหล้าอยู่กับนายสุริยา อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มอยู่กินกันมานานกว่า 2 ปี จากนั้นมีเรื่องทะเลาะกับนายสุริยา จนเกิดทะเลาะวิวาท มีปากเสียงและทำร้ายกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายสุริยา ได้ทำร้าย น.ส.ฉัตรฑริกา จนเสียชีวิต
ขณะทำการสอบสวนที่เกิดเหตุ พบว่า ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ที่หลังบ้านของ นายจุลิน อายุ 60 ปี มีคราบเลือดเปื้อนเบาะที่นอน พื้นบ้าน และฝาผนังหลังบ้าน มีสิ่งของกระจัดกระจาย โต๊ะไม้ขาโต๊ะหักพังหายไป 1 ขา ขณะสอบสวนที่เกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.ท้ายเหมือง ได้เข้าควบคุมตัวนายสุริยา มาทำการสอบสวน
นายสุริยา ยอมรับว่าก่อเหตุจริง แต่ไม่คิดว่า แฟนสาวจะเสียชีวิต โดยหลังจากดื่มเหล้ากับแฟนที่บ้านตนเอง จากนั้นแฟนตนเองหายออกจากบ้าน จึงออกตามหา กระทั่งมาพบว่าแฟนสาวตนเองนอนอยู่กับผู้ชายเพื่อนบ้านบริเวณหลังบ้าน โดยตนเห็นว่ามีผู้ชายนอนข้างภรรยาใส่กางเกงในตัวเดียวส่วนแฟนสาวใส่เสื้อผ้าแต่ตะขอยกทรงถูกปลดออก จึงโกรธจัดเข้าไปพังโต๊ะไม้พร้อมหักขาโต๊ะใช้เป็นอาวุธตีเข้าศีรษะแฟนสาว 3-4 ครั้ง แล้วลากร่างแฟนสาวเข้าบ้านตนเอง เมื่อถึงบ้านเห็นแฟนสาวนอนสลบ ตนจึงห่มผ้าถุงให้กันหนาว จนเช้าตนเองจึงออกไปกรีดยางพาราตามปกติ ไม่คาดคิดว่าแฟนสาวจะเสียชีวิต
ด้านนายอนุศิษฏ์ อายุ 61 ปี พ่อของนายสุริยา กล่าวว่า ทั้งคู่คบหาอยู่กินกันมากว่า 2 ปี ช่วงแรกก็เป็นปกติตามประสาผัวเมียทั่วไป กระทั่งฝ่ายหญิงมีท่าทีว่าจะดื่มเหล้าบ่อยขึ้น และลูกชายดื่มเหล้าด้วยกันบ่อยขึ้น และเพิ่มขึ้นจนเป็นดื่มทุกวัน และดื่มทุกเวลา จนไม่ค่อยได้ทำสวนทั้งสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และที่ดินว่างเปล่าอีก ยอมรับว่าลูกชายเป็นคนขี้หึง แต่ลูกสะใภ้ก็ทำตัวไม่น่าไว้วางใจ เรียกว่ามีตั้งวงเหล้าตรงไหนจะเห็นผู้ตายตรงนั้น
ส่วนนายจุลิน ให้การว่า นายสุริยา กับ น.ส.ฉัตรฑริกา ชอบดื่มเหล้าและทะเลาะบ่อยครั้ง จนชาวบ้านในพื้นที่ทราบกันดี กระทั่งช่วงวันที่ 14 เม.ย.65 ทั้งคู่ดื่มกันที่บ้านที่พบศพตั้งแต่เที่ยง จากนั้นช่วงค่ำเกิดทะเลาะกัน จน น.ส.ฉัตรฑริกา วิ่งหนีไปแอบที่บ้านเพื่อนบ้านห่างจากบ้านตนเองไปอีกประมาณ 100 เมตร โดยมีนายสุริยา ไปตามทะเลาะวิวาทกันอีก กระทั่ง น.ส.ฉัตรฑริกา หนีมานั่งที่ม้านั่งเปลข้างบ้านตนเอง โดยมีนายสุริยา ตามมาหาเรื่องทุบตีอีก โดยผู้ตายวิ่งหนีพยายามวิ่งเข้าหลังบ้านตนเองซึ่งมีนายหมู คนงานในสวนยางพารา นอนบนเบาะหลังบ้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุพังโต๊ะไม้แล้วใช้ขาโต๊ะทุบตีผู้ตายหลายครั้งแล้วลากร่างเปื้อนเลือดกลับบ้านของผู้ก่อเหตุ จนมาทราบเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15 เม.ย.65) ว่า น.ส.ฉัตรฑริกา เสียชีวิต
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี