จากกรณีเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 13.20 น. ได้มีคนร้ายเป็น ชาย 1 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส นครราชสีมา ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 3 บาท จำนวน 51 เส้น น้ำหนักรวม 153 บาท มูลค่ากว่า 4.5 ล้านบาท หลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จะสามารถติดตามจับกุมตัว นายกิตติพงศ์ แพไธสง หรือ เบส อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองได้ในที่สุด
ล่าสุดวันนี้ (15 เมษายน 2565) เวลา 17.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ตร.ภ. 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ภาณุ บุรณศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และพล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายกิตติพงศ์ แพไธสง หรือ “เบส” อายุ 28 ปี ชาว จ.นครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่โรงแรม Tevan Jomtien Hotel ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ซึ่งนายกิตติพงศ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่าเหตุผลที่ก่อเหตุเพราะตกงาน และไม่มีเงินใช้
โดยในการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหา ขณะนี้ตำรวจสามารถตรวจยึดทองคำส่วนใหญ่กลับคืนมาได้แล้ว ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ จำนวน 28 เส้น น้ำหนักรวม 84 บาท ที่ผู้ต้องหานำไปฝังดินไว้หลังบ้านพักของภรรยาที่จังหวัดนครราชสีมา เงินสดจำนวน 110,000 บาท ที่ยึดได้จากตัวผู้ต้องหาขณะจับกุม รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวดำส้ม หมายเลขทะเบียน เมจ 504 นครราชสีมา ที่ผู้ต้องหาใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ อาวุธปืนปลอมที่ใช้ในการก่อเหตุ เสื้อผ้า หมวกคลุมหัวสีดำ กระเป๋าสะพาย 2 ใบที่ใช้ในวันก่อเหตุ โดยในส่วนสร้อยคอทองคำของกลางที่ยังขาดหายไป ผู้ต้องหาอ้างว่า ได้นำไปขายตามที่ต่างๆ ระหว่างหลบหนี ขณะที่บางส่วนนำไปฝากกับคนรู้จัก และบางส่วนตกหล่นหายไประหว่างทางที่หลบหนี ซึ่งตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนติดตามของกลางมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป
ต่อมาเวลา 17.50 น.ที่ห้างทองเยาวราช กรุงเทพฯ ภายในห้างสรรพสินค้าเทศโก้โลตัส สาขานครรราชสีมา พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืแงนครราชสีมา พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง และกำลังงานป้องกันปราบปราม 191 กว่า 10 นาย ได้คุมตัวนายกิตติพงศ์ฯไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่เข้าประตูใช้ปืนพาสติกขู่พนักงาน และขึ้นตู้กระจกใชมือคว้าทองรูปพรรณน้ำหนักทั้งถาด 3 บาท ก่อนลงมาวิ่งหลบหนีออกจากห้างฯ ทั้งนี้ก่อนลงมือได้ไปเข้าห้องน้ำชั้น 2 ภายในห้างฯ แล้วถึงลงมาก่อนเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะทำแผนได้พูดคุยกับพนักงานร้านทอง ซึ่งพนักงานได้สอบถามถึงจำนวนทองรูปพรรณที่ปล้นไปอยู่ไหนหมด โดยคนร้ายบอกแต่เพียงว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี