วันที่ 28 เมษายน 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อแพทยสภา ขอกล่าวโทษ แพทย์นิติเวชทุกคนที่ให้ความเห็นและเป็นพยานในคดี น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่ให้ความเห็นทางวิชาการ ที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการนิติเวชเป็นผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม โดยหวังให้นายกแพทยสภา และเลขาธิการแพทยสภา เรียกเอกสารรายงานการชันสูตรมาตรวจสอบ เนื่องจากบาดแผลที่ระบุตอนแรกของการผ่าชันสูตร กับเมื่อครั้งแถลงข่าวค่อยๆปรากฎเพิ่มขึ้นจากการผ่าชันสูตร และแถลงข่าว รวม 4 ครั้ง จาก 11 แผล ผ่าครั้งที่ 2 เป็น 22 แผล และ เพิ่มมาครั้งสุดท้ายอีก 26 แผล ไม่รู้ว่าแผลค่อยๆเพิ่มมากได้อย่างไร ซึ่งเป็นบาดแผลก้างปลา และอ้างตามคำให้การของแซน ว่า แตงโมตกเรือทางกาบซ้ายของเรือ แต่บาดแผลที่เกิดขึ้นที่โคนขาขวา เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะพบแผล เพราะหมายความว่าต้องคร่อมมอเตอร์เรือ และยังนำภาพบาดแผลจากต่างประเทศ อ้างว่าเข้ากันได้กับบาดแผลของแตงโม มาสรุปว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ แต่ภาพดังกล่าว ทางนสพ.เดอะซัน ออกมาระบุแล้วว่า ที่แท้เป็นบาดแผลที่เกิดจาก มีด ของคม ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแพทย์นิติเวชที่เกี่ยวข้อง มีความผิดทางจริยธรรมวิชาชีพเวชกรรม เพราะได้ให้การกับพนักงานสอบสวน จึงต้องการให้แพทยสภา ตรวจสอบและหาตัวแพทย์นิติเวชคนดังกล่าว เพราะมาจาก 4 สถาบัน
นอกจากนี้ยังระบุมีหลักฐานใหม่ ที่ยังไม่เปิด คือการที่แตงโม กำทรายไว้ในมือ อาจสะท้อนเชื่อมโยง แตงโมต้องการสื่อถึงคดี เจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจสอบทรายที่พบว่า ตรงกับในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หรือ ตรงกับทรายที่จุดอื่น หรือ อาจสื่อถึงใครในคดี
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ยังติดใจกรณีที่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล้านำข้อมูลอันเป็นเท็จมาแหกตาประชาชน ทั้งเรื่องแซนนั่งท้ายเรือ การเจอวัตถุพยานเส้นผมของแตงโมในครั้งที่ 4 ทั้งที่ตรวจมาหลายครั้ง และทำไมต้องเจอแค่เส้นผมของแตงโมคนเดียว ทั้งที่ คนนั่งในเรือมีถึง 6 คน ทั้งนี้ตนเอง เตรียมเข้าพบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร้องขอให้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะส่อไปในทางฆาตกรรมอำพาง ในวันพรุ่งนี้เวลา 13.00 น. เนื่องจากสังคมเกิดข้อกังขาในการทำคดี อีกทั้งคดีแซน ตำรวจ สภ. นนทบุรี กลับไม่ออกเลขคดี เป็นเรื่องสำคัญมาก มีความเชื่อมโยงพลิกคดีแตงโม เพราะขณะนี้ตนมีพยานมากกว่า 7 ปาก แต่แซนกลับบ่ายเบี่ยงทำให้ไม่สามารถสอบพยานได้ ย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามการสืบสวนสอบสวน จะผิดม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ184 กรณีเอื้อประโยชน์ช่วยผู้ต้องหาพ้นผิดและรับโทษน้อยลง และไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะใช้สิทธิโดยสุจริต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี