ร้องแพทยสภา
‘อัจฉริยะ’คาใจชันสูตร‘แตงโม’
ไม่เชื่อโคนขาขวาถูกใบพัดเรือตัด
ซัดแพทย์นิติเวชทำผิดจริยธรรม
ยื่นDSIรับเป็นคดีพิเศษ29เม.ย.นี้
“อัจฉริยะ”บุกร้องแพทยสภา สอบจริยธรรมแพทย์นิติเวชที่ร่วมชันสูตรศพ “แตงโม” คาใจผลผ่าศพจำนวนบาดแผลไม่เท่ากัน-ไม่เชื่อแผลโคนขาขวาถูกใบพัดเรือจ่อร้องดีเอสไอ ให้รับเป็นคดีพิเศษ 29 เมษายนนี้
เมื่อวันที่ 28 เมษายนผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) หรือแตงโม พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง อายุ37 ปี ภายหลัง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมคณะแถลงสรุปสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซนและนายภีม ธรรมธีรศรีหรือเอ็มโดยข้อหาหลักคือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สำนวนคดีมีความหนาถึง2,249 หน้า และได้ส่งมอบให้อัยการไปแล้วว่านายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข กล่าวโทษแพทย์นิติเวชที่ร่วมกันลงความเห็นและเป็นพยานในคดีการเสียชีวิตของแตงโม อ้างว่าเป็นการให้ความเห็นทางวิชาการที่ไม่ถูกหลักวิชาการนิติเวช
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า แพทย์นิติเวชชุดดังกล่าวเป็นผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมตนหวังจะให้นายกแพทยสภา และเลขาธิการแพทยสภา เรียกเอกสารรายงานการชันสูตรทั้งหมดมาตรวจสอบ เนื่องจากบาดแผลของแตงโม ที่ระบุครั้งแรกของการผ่าชันสูตรกับเมื่อครั้งที่ได้แถลงข่าวค่อยๆปรากฏเพิ่มขึ้นจากการผ่าชันสูตรและแถลงข่าวรวม 4 ครั้ง จาก 11 แผล เมื่อผ่าครั้งที่ 2 เป็น 22 แผล และเพิ่มในครั้งสุดท้ายเป็น 26 แผล ไม่รู้ว่าแผลค่อยๆเพิ่มมากขึ้นได้อย่างไร
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนบาดแผลแบบก้างปลาอ้างตามคำให้การของนายวิศาพัช หรือแซน ว่า แตงโมตกเรือทางกาบซ้ายของเรือ แต่บาดแผลที่เกิดขึ้นที่โคนขาขวานั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบแผล เพราะหมายความต้องคร่อมมอเตอร์เรือ แล้วนำภาพบาดแผลจากต่างประเทศที่อ้างว่าเข้ากันได้กับบาดแผลของแตงโม มาสรุปว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือแต่ภาพดังกล่าว ทางน.ส.พ.เดอะซัน ระบุแล้วว่าที่แท้เป็นบาดแผลที่เกิดจากของมีคม ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแพทย์นิติเวชที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ มีความผิดทางจริยธรรมวิชาชีพเวชกรรม ในการให้การกับพนักงานสอบ จึงขอให้แพทยสภา ตรวจสอบและหาตัวแพทย์นิติเวชรายดังกล่าวที่มาจากโรงพยาบาล4แห่ง
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า มีหลักฐานใหม่คือการที่แตงโม กำทรายไว้ในมือ ซึ่งอาจสะท้อนเชื่อมโยงว่า แตงโมต้องการสื่อถึงคดีนี้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีการตรวจสอบทรายที่พบว่าตรงกับในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หรือตรงกับทรายที่จุดอื่น หรืออาจสื่อถึงใครในคดีด้วย
“ยังติดใจกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล้านำข้อมูลอันเป็นเท็จมาแหกตาประชาชน ทั้งเรื่องที่แซนนั่งท้ายเรือ การเจอวัตถุพยานเส้นผมของแตงโมในการตรวจเรือครั้งที่ 4 ทั้งที่ตรวจมาหลายครั้ง และทำไมต้องเจอแค่เส้นผมของแตงโมคนเดียว ทั้งที่คนในเรือมีถึง 6 คน” นายอัจฉริยะ กล่าวและว่า เตรียมจะเข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในวันที่ 29 เมษายนนี้ เวลา 13.00 น.เพื่อขอให้รับคดีแตงโม เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากส่อไปในทางฆาตกรรมอำพราง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้สังคมเกิดข้อกังขาในการทำคดีของตำรวจ อีกทั้งตนแจ้งความดำเนินคดีในส่วนของแซน แต่ทางตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี กลับไม่ได้ออกเลขคดี ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก มีความเชื่อมโยงที่จะพลิกคดีแตงโม ขณะนี้ตนมีพยานมากกว่า 7 ปาก แต่ยังมีการบ่ายเบี่ยงจนทำให้ยังไม่สามารถสอบพยานได้ ตนขอย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามการสืบสวนสอบสวน การดำเนินการของตำรวจเข้าข่ายความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 และ184 กรณีเอื้อประโยชน์ช่วยผู้ต้องหาให้พ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง โดยตนไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะได้ใช้สิทธิโดยสุจริต
เวลาประมาณ 15.30น.ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 มีการแถลงข่าวเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา กรณีมีข้อสงสัยเรื่องบาดแผลบริเวณขาที่ระบุว่าเป็นบาดแผลจากการถูกใบพัดเรือสปีดโบ๊ทปั่น โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งจัดทำคลิปวีดีโอยอมรับว่า ไม่สามารถนำภาพบาดแผลจริงมาเผยแพร่ได้ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายและขออภัยกรณีนำภาพมาใช้โดยไม่ได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มา ทำให้การนำเสนอไม่ถูกต้องครบถ้วน ทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจภาพอย่างกำกวมสงสัย แต่เจตนาของเจ้าหน้าที่ในการนำภาพมาเปรียบเทียบคือการแสดงให้เห็นบาดแผลคล้ายรูปตัวเอสเท่านั้น แต่สิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้สาระสำคัญของคดีเปลี่ยนไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี