5 พฤษภาคม 2565 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำ จนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ชป.4(นปพ.) ร่วมกับ จนท.ชุดสืบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ .จ.สระแก้ว ออกติดตามสกัดจับแก๊งค้าแรงงานเถื่อน ที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าไทย ไปส่งค้าแรงงานในพื้นที่ชั้นใน

หลังสืบทราบว่าแก๊งค้าแรงงานเถื่อนได้นำรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน 2 ฒพ 6812 กทม. ลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรที่ลักลอบข้ามพรมแดนมาตามช่องทางธรรมชาติ จากชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อไปส่งขายแรงงานในพื้นที่ชั้นใน โดยจะใช้เส้นทางชั้นใน ซึ่งเป็นถนนสายรอง ผ่าน อ.เขาฉกรรจ์ เพื่อจะออกไป จ.ฉะเชิงเทรา

ต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน 2 ฒพ 6812 กทม. ซึ่งลักษณะตรงตามที่สืบทราบมา ขับมาด้วยความเร็วสูงบนถนนสาย อ.วัฒนานคร อ.เขาฉกรรจ์ มุ่งหน้าเข้า อ.เขาฉกรรจ์

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไล่ติดตามพร้อมส่งสัญญานให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องขับหลบหนีไปทาง ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทะลุไปยังพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และออกไปสู่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงวิทยุแจ้งให้ สภ.เขาฉกรรจ์ ตั้งด่านสกัดบริเวณสามแยกบ้านพระเพลิง 2 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ พร้อมนำกรวยยางและเครื่องกีดขวางมาวางขวางไว้กลางถนน

แต่รถคันดังกล่าวได้ขับฝ่าด่านชนกรวยยางกระเด็นแล้วยังขับรถพุ่งใส่เจ้าหน้าที่ที่ยืนสกัดการหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหลบหนีตายช โดยไม่มีใครได้รับอันตราย จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ขับหนีจนเข้าเขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แต่ก็ยังไล่ติดตามไม่ลดละ พร้อมทั้งวิทยุประสานไปยังเจ้าหน้าที่ นปพ.จว.ปราจีนบุรี นำกำลังมาช่วยไล่สกัดจับจนสามารถสกัดรถคันดังกล่าวไว้ได้บริเวณสามแยกบ้านโปร่งใหญ่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 

จากการตรวจสอบพบมีนายไกรวิชญ์ ตุย อายุ 28 ปี ชาว อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่ ส่วนภายในรถและกระบะท้ายพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชานั่งซุกซ่อนและนอนราบอยู่ที่กระบะท้ายรวม 14 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 5 คน

ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงร่วมกันตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย ตามมาตรการป้องกันโควิดของ ศบค.เมื่อไม่พบผู้มีอุณหภูมิร่างกายผิดปกติจึงนำมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว โดยก่อนซักถามได้นำนายไกรวิชญ์ ตุย ผู้ขับขี่ไปตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกาย

งนายไกรวิชญ์ รับว่าได้เสพยาบ้ามาจริง ส่วนแรงงานชาวเขมร รับว่าได้ลักลอบเข้ามาประเทศไทยบริเวณช่องทางธรรมชาติ ชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อจะไปทำงานที่ กทม.และ ฉะเชิงเทราฯโดยเสียค่านำพาให้กับนายหน้าชาวเขมามาคนละ 6,500 บาท ส่วนนายไกรวิชญ์ อ้างว่าได้ค่าจ้างขับรถมารับเขมรเที่ยวละ 2,500 บาทเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งข้อหานายไกรวิชย์ ”ช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าว(ชาวกัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้รอดพ้นจากการจับกุม ,  เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและขับขี่รถโดยเสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ” ส่วน14แรงงานเขมรแจ้งข้อหา” เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่ง พงส.สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ดำเนินคดี. 012