วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 จากกรณี น.ส.น้ำทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 40 ปี เป็นสาวโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถูกเจ้าบ่าว จ.ส.อ.เอก (จ่าเอก) สุวรรณหงส์ มาพบกับบิดา-มารดาตน ขอจัดพิธีมงคลสมรสในวันที่ 1 พ.ค.65 พอถึงวันพิธีแต่งงาน ทางบ้านได้จัดเตรียมพิธีทางศาสนา โต๊ะจีนพร้อมเครื่องดื่มจำนวน 50 โต๊ะ พอถึงพิธีทางศาสนา  ก็ยังไม่พบตัวของเจ้าบ่าว  ปล่อยให้ทางเจ้าสาวดำเนินการขั้นตอนทางศาสนาไปเพียงคนเดียว เมื่อเวลาแห่ขันหมากทางญาติของเจ้าสาวก็ต้องดำเนินการต่อ จนเสร็จสิ้นตามพิธี ก่อนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา

โดยวันนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง บ้านของจ่าสิบเอก "เอก" หรือ นายเอก ซึ่งลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นมีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึง ตั้งใจไปคุยกับแม่และคนที่บ้าน แต่ปรากฏว่า นายเอก ได้เดินสวนออกมา แล้วจูงมือนักข่าว บอกว่า พี่ๆเดี๋ยวไปคุยข้างนอก แม่ผมเป็นโรคหัวใจ หากแม่รู้เรื่องเกรงว่าแม่จะอาการทรุดลง

จากนั้น นายเอก ก็เปิดใจกับทีมข่าวว่า ที่ตนเองต้องหนีกลับมาตั้งหลักที่บ้าน เนื่องจาก วันที่จะแต่งงาน มีเงินแค่แสนกว่าบาท หาเงินไม่ทันจริงๆ คิดอะไรไม่ออก ก็เลยตัดสินใจนั่งรถกลับมาที่บ้าน ยอมรับว่าตอนที่ตัดสินใจกลับมา ไม่ได้บอกเจ้าสาวว่าเงินไม่พอ เพราะว่ากลัวทางครอบครัวเจ้าสาวจะว่า พอกลับมาตั้งหลักที่บ้าน ก็ได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าสาวแล้ว แต่เจ้าสาวไม่ยอมคุยด้วย จึงบอกกับทางนายกเขียว ในพื้นที่ไปว่า วันที่ 11 พ.ค.จะหาเงินไปคืนให้เจ้าสาวที่ สภ.นาดี ให้ครบ 3 แสนบาท แล้วก็จะพาแม่ ไปกราบขอขมาพ่อแม่เจ้าสาว ยืนยันว่าตนเองตั้งใจจะแต่งงานจริงๆ รักเจ้าสาวคนนี้มาก ข่าวที่ออกไปว่า ตัวเองเคยแต่งงานมาก่อน ไม่เป็นความจริง แต่เคยจดทะเบียนสมรส กับภรรยาเก่า แล้วหย่ากันเรียบร้อยเมื่อปี 63 

ส่วนเรื่องที่บอกว่า ตัวเองอ้างกับเจ้าสาวว่าเป็นทหารยศสิบเอก จริงๆแล้วเจ้าสาวเข้าใจผิด แต่ก่อนผมเคยเป็นทหารเกณฑ์อยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พอกลับมารับใช้ ส.จ.ที่จังหวัดปราจีนบุรี คนก็พาเรียกขานกันไปว่าผมเป็นจ่า แล้วผมดันชื่อ"เอก" ก็เลยเรียกติดปากกันว่า"จ่าเอก"เท่านั้น ถ้าหากครอบครัวเจ้าสาวฟังอยู่ ก็อยากจะพูดคำว่าขอโทษ ที่ออกมาจากใจจริง ผมไม่ได้ตั้งใจหลอกเจ้าสาว ขอให้เจ้าสาวเห็นใจและให้โอกาสผมอีกครั้ง ยืนยันว่าวันที่ 11 พ.ค.จะกลับไปเคลียร์ทุกอย่างให้จบ ส่วนที่สังคมมองว่า ผมเป็นผู้ชายแล้วทิ้งเจ้าสาวให้ยืนรับแขกและต้องแต่งงานคนเดียว ผมต้องขอโทษสังคมและอยากจะให้สังคมให้โอกาสผม ยอมรับตัดสิ้นใจพลาดไปแล้วจริงๆ

ด้านนางจิตตรา แต้มพุดซา ผู้ใหญ่บ้าน ที่พาทีมข่าวไปที่บ้านของนายเอก ในวันนี้บอกว่า ส่วนตัวไม่รู้จริงๆว่านายเอก ไปแต่งงานกับใคร เพราะตัวนายเอก ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้มานานแล้ว รู้แต่ว่าปัจจุบันบ้านของนายเอก มีแม่ของเขาใช้ชีวิตอยู่กับหลาน ยืนยันว่านายเอก ไม่ได้เป็นทหารอย่างที่เป็นข่าว ส่วนเรื่องที่นายเอก เคยมีครอบครัวมาก่อนหรือไม่ ไม่มีใครรู้ ตกใจมากที่รู้ว่าลูกบ้าน ไปหลอกผู้หญิงแต่งงาน แล้วหนีกลับมาในพื้นที่ สงสารเจ้าสาว เข้าใจหัวอกคนเป็นผู้หญิงด้วยกัน ตอนเข้าไปในบ้านได้มีโอกาสคุยกับแม่นายเอก ถามว่ารู้ไหมว่าลูกชายไปทำอะไรมา แม่ของนายเอกก็ยืนยันว่า ไม่รู้ ติดต่อลูกชายไม่ได้ อยู่ดีๆก็มาโผล่ที่บ้านเมื่อคืนนี้ แล้วนายเอก ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับแม่ของเขาเลยสักคำ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สุดช้ำใจ! เจ้าบ่าวอ้างเป็นทหาร 'เทวิวาห์' ทิ้งหนี้จัดงานอีก3แสน